ศูนย์ข่าวภาคใต้ - เผยฝ่ายปกครอง และตำรวจในพื้นที่ จ.สงขลา เปิดศึกกันนัว และนำไปสู่ความขัดแย้งถึงขั้นปฏิบัติการทำลายแหล่งผลประโยชน์ฝ่ายตรงข้ามอันรุนแรง โดยมีหลายเหตุการณ์สำคัญเป็นเครื่องยืนยัน บุกจับบ่อทราย และดินลูกรังเถื่อน รวบตำรวจปลอมพร้อมอาวุธเพียบ และถึงขั้นทลายแหล่งผลิตระเบิดได้ แต่คดีความกลับไม่คืบ แถมมีความพยายามเป่าไม่ให้เกี่ยวกับปัญหาความมั่นคง
แหล่งข่าวในหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ จ.สงขลา เปิดเผยว่า ในช่วงเวลาประมาณ 1 สัปดาห์มานี้ได้เกิดเหตุการณ์ที่ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งระหว่างฝ่ายตำรวจกับฝ่ายปกครองในพื้นที่ของ จ.สงขลา อย่างอย่างรุนแรง โดยมีสาเหตุมาจาก 2 เหตุการณ์สำคัญด้วยกัน แล้วความขัดแย้งที่เกิดขึ้นได้กลายเป็นเรื่องที่กล่าวขานกันอย่าหนาหูในแวดวงหน่วยงานราชการในพื้นที่
สาเหตุที่นำไปสู่ความขัดแย้งเรื่องแรกนั้น ต้นเรื่องเกิดจาก นายสมศักดิ์ ชูศรี ปลัดอำเภอจะนะ จ.สงขลา ได้นำกำลังฝ่ายปกครองเข้าทำการจับกุม นายธนวัฒน์ ส่งสิงห์ ในข้อหามีอาวุธปืน และเครื่องกระสุน รวมถึงเครื่องรับส่งวิทยุไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต อีกทั้งยังมีการแต่งกายเลียนแบบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเหตุเกิดในท้องที่ของ สภ.ควนมีด อ.จะนะ จ.สงขลา ซึ่งมีรายงานข่าวระบุว่า นายธนวัฒน์ ที่ถูกฝ่ายปกครองจับกุมเป็นญาติของภรรยานายตำรวจระดับใหญ่ในพื้นที่ผู้หนึ่ง
ทั้งนี้ สาเหตุที่ฝ่ายปกครองได้จับกุม นายธนวัฒน์ ทั้งที่ทราบมาก่อนแล้วว่าไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่มักแต่งกายเลียนแบบตำรวจ โดยเข้าไปช่วยงานตำรวจที่ป้อมจุดตรวจควนมีดเป็นประจำ แหล่งข่าวจากฝ่ายตำรวจในพื้นที่เปิดเผยว่า เกิดจากที่ตำรวจในพื้นที่ สภ.ควนมีด นำกำลังไปจับรถบรรทุกดิน และบ่อดินลูกรังของปลัดคนหนึ่งในพื้นที่ อ.จะนะ จ.สงขลา จนทำให้ฝ่ายปกครองเปิดปฏิบัติการเอาคืนต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจบ้าง
โดยก่อนหน้านี้ ตำรวจ สภ.ควนมีด ก็เคยมีเรื่องขัดแย้งกับฝ่ายปกครองในเรื่องการจับกุมของหนีภาษีมาแล้วหลายครั้งเช่นกัน
ภายหลังเกิดเหตุการณ์ปลัดอำเภอนำกำลังฝ่ายปกครองจับตำรวจปลอมดังกล่าว ปรากฏว่า มีการรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และต่อมา นายศักระ กบิลกาญจน์ ปลัดจังหวัดสงขลา ได้ทำคำสั่งเพื่อย้าย นายสมศักดิ์ ชูศรี ปลัดปลัดอำเภอจะนะ ออกนอกพื้นที่ แต่เกิดแรงต่อต้านจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอย่างหนัก
ตามด้วยมีนายอำเภอคนหนึ่งที่อยู่นอกพื้นที่ อ.จะนะ ขู่ว่า หากมีการย้ายโดยไม่เป็นธรรมก็จะมีการแฉเรื่องผลประโยชน์ทั้งของฝ่ายปกครอง และตำรวจที่ขัดแย้งกัน จนในที่สุดส่งผลให้ต้องมีการฉีกคำสั่งย้ายปลัดอำเภอจะนะ ออกนอกพื้นที่ทิ้งไป
ต่อมา เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา นายสมโภชน์ โชติชูช่วง นายอำเภอรัตภูมิ จ.สงขลา ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นจับกุมแหลล่งมั่วสุมยาเสพติด และปรากฏได้พบว่า เป็นแหล่งผลิตวัตถุระเบิดในสวนยางนั้นด้วย ซึ่งเหตุเกิดในท้องที่หมู่ 8 ต.ท่ามะปราง อ.รัตภูมิ จ.สงขลา โดยได้มีการแถลงข่าวว่าเป็นเรื่องของความมั่นคง และอาจจะเกี่ยวกับการก่อการร้ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
แต่ต่อมา ในวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา ฝ่ายตำรวจ ภ.จว.สงขลา ได้แถลงข่าวแก้ไขเรื่องการจับกุมตรวจค้นแหล่งมั่วสุมยาเสพติด และแหล่งผลิตวัตถุระเบิดครั้งนี้ว่า กรณีที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวข้องต่อเรื่องของความมั่นคง แต่เป็นเรื่องของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดทำระเบิดขึ้นเพื่อใช้ในการแก้แค้นกันเอง จากการหักหลังเรื่องยาเสพติด
อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ดังกล่าวในส่วนของฝ่ายปกครองในพื้นที่ จ.สงขลา ก็ยังยังยืนยันว่า เรื่องการตรวจพบแหล่งประกอบวัตถุระเบิดเป็นเรื่องของความมั่นคงอย่างแน่นอน โดยไม่สามารถจำกัดวงให้เป็นเรื่องของกลุ่มค้ายาเสพติดเกิดความขัดแย้งกันเท่านั้น
“เรื่องราวที่เกิดขึ้นจึงนำไกสู่เหตุให้เกิดความขัดแย้งขึ้นระหว่างฝ่ายปกครองกับฝ่ายตำรวจในพื้นที่ จ.สงขลา อย่างรุนแรง และสถานการณ์ความขัดแย้งได้ลุกลามถึงขั้นที่เหตุการณ์ทลายแหล่งผลิตระเบิดจะผ่านไปแล้วหลายวัน โดยระหว่างการเข้าตรวจค้นมีคนร้ายหลบหนีไปได้ 3 คน อีกทั้งมีการตรวจสอบเจ้าของสวนยางแล้ว แต่เวลานี้ก็ยังไม่สามารถที่จะออกหมายจับผู้ต้องสงสัยได้ เพราะความเห็นที่ไม่ตรงกันระหว่างฝ่ายปกครอง กับฝ่ายตำรวจนั่นเอง”
แหล่งข่าวให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า สำหรับในพื้นที่ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา เกิดความขัดแย้งในเรื่องของผลประโยชน์ระหว่างฝ่ายตำรวจ กับฝ่ายปกครองมาอย่างต่อเนื่องโดยตลอด โดยเฉพาะในเรื่องของกิจการบ่อทรายเถื่อน และบ่อดินลูกรังเถื่อนที่มีอยู่เป็นจำนวนมากที่สุดใน จ.สงขลา ซึ่งเมื่อฝ่ายปกครองทำการจับกุมก็มักจะทำให้ฝ่ายตำรวจไม่พอใจ
นอกจากนี้ ยังเป็นที่น่าสังเกตว่า ในพื้นที่ ต.ท่ามะปราง และพื้นที่ใกล้เคียงใน อ.รัตภูมิ ถือเป็นแหล่งที่มีการค้าอาวุธสงครามเกิดขึ้นมาโดยตลอด โดยมีการนำอาวุธสงครามจากภาคอื่นๆ เข้ามาซุกซ่อนไว้ แล้วนำไปขายให้แก่ผู้ต้องการในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งยังถือเป็นที่พักพิงของขบวนการค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา และชาติอื่นๆ ก่อนที่จะส่งผ่านไปยังพื้นที่ชายแดน อ.สะเดา จ.สงขลา อีกด้วย