กระบี่ - ผจก.บริษัทคงคาธร หอบหลักฐานแจงถูกกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง แจ้งความดำเนินคดีรุกป่าชายเลน 12 ไร่ ไม่เป็นธรรม ทั้งๆ ที่ได้ขออนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย และอยู่นอกเหนืออำนาจหน้าที่
เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (11 ก.ค.) ที่ห้องประชุมโรงแรมโกเด้นฮิลล์ อ.เมือง จ.กระบี่ นายพลวัต ณ นคร ผู้จัดการทั่วไป บริษัทคงคาธร จำกัด ได้จัดแถลงข้อเท็จจริงกรณีถูกกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แจ้งความดำเนินคดีบริษัทฯ ในข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่าคลองจิหลาด จำนวน 12 ไร่ บริเวณคลองนบ ม.6 ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้บริษัทฯ ได้รับความเสียหาย ต้องหยุดการดำเนินการก่อสร้างชั่วคราวในส่วนที่ถูกแจ้งความดำเนินคดี และยังส่งผลทำให้ขาดความเชื่อถือจากลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการ
นายพลวัต กล่าวว่า สำหรับคลองนบ เดิมเป็นร่องน้ำที่ประชาชนใช้สัญจรอยู่แล้ว เชื่อมต่อกับคลองจิหลาด ออกไปยังทะเลอันดามัน และทางบริษัทฯ เตรียมทำการขุดลอกให้มีความลึกเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับเรือยอชต์ที่จะเข้าจอดภายในท่าเรือมารีน่าที่ทางบริษัทสร้างขึ้นในที่ดินของตนเอง บนเนื้อที่ประมาณ 300 ไร่ จอดเรือยอชต์ได้เกือบ 300 ลำ โดยได้ทำการขออนุญาตถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง
แต่ยังถูกแจ้งความดำเนินคดีอีก และที่สำคัญคลองนบ อยู่ในอำนาจหน้าที่ของกรมเจ้าท่า ไม่ใช่กรมทรัพย์ เป็นการทำหน้าที่เกินขอบเขตหรือไม่ ในเบื้องต้น ได้เดินทางไปที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกระบี่ เพื่อร้องขอความเป็นธรรมกรณีบริษัทถูกแจ้งความดำเนินคดีไม่เป็นธรรมแล้ว
นายพลวัต กล่าวด้วยว่า สำหรับการลงทุนสร้างท่าเรือมารีน่าของบริษัทฯ เป็นการขุดบ่อขึ้นเองในที่ดินที่มีเอกสารสิทธิตราจอง ไม่ได้สร้างยื่นไปในทะเล เหมือนกับหลายๆ แห่งที่เกิดขึ้น เพียงแต่ต้องอาศัยทางน้ำเพื่อให้เรือยอชต์สามารถเข้ามาจอดภายในท่าเรือได้ ซึ่งทางบริษัทฯ ต้องอาศัยคลองนบ ซึ่งเป็นคลองที่มีอยู่เดิมเป็นเส้นทางผ่าน จึงต้องขุดลอกให้ลึกขึ้นเพื่อให้สามารถรองรับเรือขนาดใหญ่ได้ และได้ขออนุญาตถูกต้องทุกอย่างตามกฎหมาย หากว่าท่าเรือมารีน่าแห่งนี้สร้างเสร็จก็จะกลายเป็นมารีน่าฮับเซาท์อีสต์เอเชียทันที ด้วยงบลงทุนกว่า 500 ล้านบาท สามารถจอดเรือยอชต์ได้เกือบ 300 ลำ ซึ่งยังไม่รวมการลงทุนด้านอื่นๆ
เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (11 ก.ค.) ที่ห้องประชุมโรงแรมโกเด้นฮิลล์ อ.เมือง จ.กระบี่ นายพลวัต ณ นคร ผู้จัดการทั่วไป บริษัทคงคาธร จำกัด ได้จัดแถลงข้อเท็จจริงกรณีถูกกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แจ้งความดำเนินคดีบริษัทฯ ในข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่าคลองจิหลาด จำนวน 12 ไร่ บริเวณคลองนบ ม.6 ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้บริษัทฯ ได้รับความเสียหาย ต้องหยุดการดำเนินการก่อสร้างชั่วคราวในส่วนที่ถูกแจ้งความดำเนินคดี และยังส่งผลทำให้ขาดความเชื่อถือจากลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการ
นายพลวัต กล่าวว่า สำหรับคลองนบ เดิมเป็นร่องน้ำที่ประชาชนใช้สัญจรอยู่แล้ว เชื่อมต่อกับคลองจิหลาด ออกไปยังทะเลอันดามัน และทางบริษัทฯ เตรียมทำการขุดลอกให้มีความลึกเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับเรือยอชต์ที่จะเข้าจอดภายในท่าเรือมารีน่าที่ทางบริษัทสร้างขึ้นในที่ดินของตนเอง บนเนื้อที่ประมาณ 300 ไร่ จอดเรือยอชต์ได้เกือบ 300 ลำ โดยได้ทำการขออนุญาตถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง
แต่ยังถูกแจ้งความดำเนินคดีอีก และที่สำคัญคลองนบ อยู่ในอำนาจหน้าที่ของกรมเจ้าท่า ไม่ใช่กรมทรัพย์ เป็นการทำหน้าที่เกินขอบเขตหรือไม่ ในเบื้องต้น ได้เดินทางไปที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกระบี่ เพื่อร้องขอความเป็นธรรมกรณีบริษัทถูกแจ้งความดำเนินคดีไม่เป็นธรรมแล้ว
นายพลวัต กล่าวด้วยว่า สำหรับการลงทุนสร้างท่าเรือมารีน่าของบริษัทฯ เป็นการขุดบ่อขึ้นเองในที่ดินที่มีเอกสารสิทธิตราจอง ไม่ได้สร้างยื่นไปในทะเล เหมือนกับหลายๆ แห่งที่เกิดขึ้น เพียงแต่ต้องอาศัยทางน้ำเพื่อให้เรือยอชต์สามารถเข้ามาจอดภายในท่าเรือได้ ซึ่งทางบริษัทฯ ต้องอาศัยคลองนบ ซึ่งเป็นคลองที่มีอยู่เดิมเป็นเส้นทางผ่าน จึงต้องขุดลอกให้ลึกขึ้นเพื่อให้สามารถรองรับเรือขนาดใหญ่ได้ และได้ขออนุญาตถูกต้องทุกอย่างตามกฎหมาย หากว่าท่าเรือมารีน่าแห่งนี้สร้างเสร็จก็จะกลายเป็นมารีน่าฮับเซาท์อีสต์เอเชียทันที ด้วยงบลงทุนกว่า 500 ล้านบาท สามารถจอดเรือยอชต์ได้เกือบ 300 ลำ ซึ่งยังไม่รวมการลงทุนด้านอื่นๆ