xs
xsm
sm
md
lg

เผาแล้ว! หนูน้อยตรังวัย 8 ขวบในคดีพ่อเป็นผู้ฆ่าข่มขืน หลังเก็บศพนานเกือบ 2 เดือน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ตรัง - เผาแล้วหนูน้อยวัย 8 ขวบ ในคดีที่พ่อตกเป็นผู้ต้องหาฆ่าข่มขืน หลังเก็บศพไว้เกือบ 2 เดือน ขณะที่ผู้เป็นแม่เผยจนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับรายงานผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์จากตำรวจเลย

วันนี้ (7 ก.ค.) ที่วัดต้นปีก ม.4 ต.หนองตรุด อ.เมือง จ.ตรัง นางศลิษา ทองย้อย ผู้เป็นแม่ของ ด.ญ.เอ๋ (นามสมมติ) อายุ 8 ขวบ ซึ่งถูกคนร้ายกรอกน้ำอัดลมผสมยาบ้า ก่อนลงมือข่มขืนจนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 11 พ.ค.2559 ที่ผ่านมา ได้ทำการเผาศพบุตรสาวแล้ว หลังเก็บไว้นานเกือบ 2 เดือนเต็ม โดยมีบรรดาญาติพี่น้อง คณะครู และเพื่อนของหนูน้อยมาร่วมพิธีด้วย ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า
 

 
ขณะที่ผู้เป็นแม่ก็ร้องไห้แทบขาดใจ ก่อนให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า จนถึงวันนี้ตนก็ยังไม่ได้รับรายงานผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์จากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามที่มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้ว่า นายกิตติศักดิ์ ทองย้อย ซึ่งพ่อของเด็กเป็นผู้ที่ลงมือฆ่าข่มขืนลูกสาวของตนเอง เนื่องจากมีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มัดตัวอย่างชัดเจน โดยล่าสุด ศาลก็ยังไม่ได้สั่งฟ้อง นายกิตติศักดิ์ ในคดีนี้ และคงต้องต่อสู้กันตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป ส่วนคดียังคาใจหรือไม่นั้นก็จะขอพูดในชั้นศาล และยังมีความหวังว่าสามีจะได้ประกันตัวออกมา

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 พ.ค.2559 ในพื้นที่ ม.4 ต.หนองตรุด อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งต่อมา สภ.หนองตรุด ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยรวม 12 คน แล้วนำไปตรวจดีเอ็นเอที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ จ.สงขลา ซึ่ง 1 ในนั้นมี นายกิตติศักดิ์ ผู้เป็นพ่อของเด็กรวมอยู่ด้วย 
 

 
ทั้งนี้ ผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ออกมาเมื่อประมาณปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พบว่า ในช่องคลอดของหนูน้อยมีดีเอ็นเอพ่อของเด็กอยู่ด้วย ศาล จ.ตรัง จึงมีคำสั่งอนุมัติหมายจับพ่อของเด็ก และให้ปล่อยตัว นายศรันรัชต์ ซู่สั้น อายุ 20 ปี เพื่อนบ้าน ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาคนที่ 1 ในเวลาต่อมา เนื่องจากไม่มีวัตถุพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง 

ผู้เป็นแม่จึงได้ขอเก็บศพของลูกสาวเอาไว้เพื่อรอให้สามีได้รับการประกันตัว และออกมาเผาศพลูกสาวพร้อมหน้ากัน แต่สุดท้ายพ่อของเด็กก็ยังไม่ได้รับการประกันตัว และตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้เพียงคนเดียว ทำให้ผู้เป็นแม่ต้องยอมตัดสินใจเผาศพลูกสาว โดยหลังจากนี้จะเข้าสู่กระบวนการต่อสู้ในชั้นศาลต่อไป
 
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น