“มาราปาตานี” ห่วงชาวบ้านเดือดร้อนจากโรงไฟฟ้าถ่านหิน เรียกร้องหนุ่มสาวมลายูร่วมสร้างสันติ (ชมคลิป)

 
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - มาราปาตานี เผยแพร่คลิปเรียกร้องหนุ่มสาวมลายูสร้างการเปลี่ยนแปลงสู่สันติภาพ เผยเสียใจ และมีความรู้สึกร่วมกับกรณีปอเนาะญีฮาดวิทยา อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี รวมถึงความเดือดร้อนที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อประชาชนใน อ.เทพา จ.สงขลา หากมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน

วันนี้ (5 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์โรงเรียนนักข่าวชายแดนใต้ http://deepsouthwatch.org/dsj/9060 ได้แปลเนื้อหาในคลิปวิดีโอที่ นายอาวัง ญาบะ ประธานกลุ่มมาราปาตานี (MARA PATANI) ซึ่งเป็นองค์กรร่วมของสมาชิกกลุ่มขบวนการชาตินิยมมลายูปาตานีหลายองค์กรที่ได้ออกคลิปเผยแพร่คำกล่าวของมาราปาตานี เนื่องในโอกาสอีดิ้ลฟิตรี 1437/2016 ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก Mara Patani - OfficialPage

โดยอาวัง กล่าวโดยสรุปเป็นภาษาไทยว่า ข้าพเจ้าขอขอบคุณเอกองค์อัลลอฮที่ให้มีโอกาสต้อนรับวันอีดิ้ลฟิตรี 1437 ในปีนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คำกล่าวสั้นๆ ของข้าพเจ้าในครั้งนี้จะเป็นที่ยอมรับ และเป็นบทเรียนร่วมกันแก่พวกเราทุกคน การถือศีลอดเป็นข้อบังคับแก่เราทุกคน เพื่อเราทุกคนจะเป็นผู้ศรัทธาต่อเอกององค์อัลลอฮ นั่นคือ ผู้ที่ภักดีต่อคำสั่งใช้ของพระองค์ และห่างไกลจากการห้ามของพระองค์ ดังที่พระองค์ได้ตรัสไว้ในอัลกุรอ่าน “บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย! การถือศีลอดนั้นได้ถูกกำหนดแก่พวกเจ้าแล้ว เช่นเดียวกับที่ได้ถูกกำหนดแก่บรรดาผู้ก่อนหน้าพวกเจ้ามาแล้ว เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้ยำเกรง”

“บทเรียนจากการถือศีลอดคือการเปลี่ยนแปลง และการปรับปรุงสู่สิ่งใหม่ๆ ที่จะสามารถกระทำผ่านการถือศีลอดดังตัวอย่างเช่น ผู้ที่ติดบุหรี่สามารถหยุดสูบบุหรี่ได้ในเดือนรอมฎอน เช่นเดียวกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอื่นๆ ที่ไม่ดี สามารถที่จะละทิ้งได้ สิ่งที่สำคัญตรงนี้คือ การถือศีลอดเป็นคำสอนเพื่อให้มนุษย์สามารถเปลี่ยนแปลง และปรับปรุงสู่ในสิ่งที่ดี”
 
 

 
อย่างไรก็ตาม ใจความสำคัญของคำกล่าวนี้คือ มาราปาตานีเสียใจ และมีความรู้สึกร่วมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อปอเนาะญีฮาดวิทยา อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ความเดือดร้อนที่กำลังจะเกิดขึ้นกับประชาชนใน อ.เทพา จ.สงขลา หากมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน และรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ทหารไทยข่มขืนเด็กสาวมุสลิมที่ อ.ธารโต จ.ยะลา พร้อมเรียกร้องให้ย้ายทหารที่ไม่มีคุณธรรมเหล่านั้นออกจากหมู่บ้านทันที

“สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ณ ดินแดนปาตานีในปัจจุบันจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลง และปรับปรุงสู่สิ่งที่ดีขึ้น ที่สำคัญคือ ต้องปรับปรุงจากสถานการณ์ความไม่สงบสู่สันติภาพ”

“เราหวัง และฝันเป็นอย่างยิ่งว่า จะเกิดหมู่บ้านสันติสุข พื้นที่ที่ปลอดภัย ประเทศชาติที่สงบสุขและประชาชนมีความสุข หรือพูดง่ายๆ เราต้องการเปลี่ยนแปลง และปรับปรุงสังคมการเมือง สังคมเศรษฐกิจ และการศึกษาและอื่นๆ ที่เหมาะสมต่ออัตลักษณ์ และความเป็นตัวตนของชาวมลายูปาตานีของเรา”

นายอาวัง ยังเรียกร้องให้มามาร่วมกันเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของชาติมลายูปาตานีด้วย โดยระบุว่า แท้จริงแล้วอัลลอฮจะไม่ทรงเปลี่ยนแปลงสภาพของชนชาติใดชนชาติหนึ่งยกเว้นชนชาตินั้นๆ จะเปลี่ยนแปลงสภาพของตัวเขาเองอย่างเช่นที่อัลลอฮตรัสไว้ในอัลกุรอาน

ในตอนท้าย นายอาวัง กล่าวว่า ข้าพเจ้าในนามมาราปาตานี ขอกล่าวคำว่า สลามัตฮารีรายออิดิลฟิตรีย์ ขออภัยทั้งกายและใจแด่ชาวมลายูปาตานีทุกคนแม้ว่าจะอยู่แห่งหนใดก็ตาม