ยะลา - จนท.ภาครัฐผนึกกำลัง 4 ฝ่าย จัดกำลังนับร้อยนายดูแลความปลอดภัยทั่วเมืองเบตงอย่างเข้มงวด หลังหน่วยข่าวกรองเตือนเฝ้าระวังกลุ่มผู้ไม่หวังดีสร้างสถานการณ์ในช่วงเทศกาลฮารีรายอ
วันนี้ (4 ก.ค.) ที่บริเวณด่านชายแดนเบตง อ.เบตง จ.ยะลา เนืองแน่นไปด้วยกลุ่มผู้ใช้แรงงานชาวไทยที่ไปทำงานในประเทศมาเลเซียนับร้อยคน ซึ่งได้เดินทางกลับมาเฉลิมฉลองเทศกาลฮารีรายอ หรือเทศกาลวันปีใหม่กับครอบครัวยังภูมิลำเนาของตนเอง ทำให้ต้องมีการเพิ่มเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบเอกสาร และหนังสือเดินทางให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ขณะที่บริเวณตามคิวรถตู้โดยสารประจำทาง ก็เต็มไปด้วยประชาชนที่มารอใช้บริการเพื่อกลับภูมิลำเนาในเทศกาลดังกล่าวด้วย ทำให้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารพราน 33 ฝ่ายปกครอง ต้องเพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังตลอดเส้นทางสาย 410 ยะลา-เบตง
ทั้งนี้ ทางสำนักจุฬาราชมนตรี ประกาศให้ชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศดูดวงจันทร์ในวันอังคารที่ 5 กรกฎาคมนี้ เวลาหลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า เพื่อกำหนดวันที่ 1 เดือนเซาวาล ฮิจเราะห์ศักราช 1437 ซึ่งเป็นการสิ้นสุดการถือศีลอด รวมทั้งกำหนดวันฮารีรายอ
ด้าน พ.ต.อ.สุชาติ สอิด ผกก.สภ.เบตง กล่าวว่า หน่วยกำลังในพื้นที่ได้ประสานกำลังกันอย่างใกล้ชิดในการใช้กำลังร่วม 4 ฝ่าย ทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหารพราน และภาคประชาชน ร่วมกันรักษาความปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็นชั้นนอก ชั้นกลาง และชั้นใน โดยพื้นที่ชั้นนอก ซึ่งเป็นรอยต่อเขตเทศบาลเมืองเบตง กับพื้นที่รอบนอก จะมุ่งเน้นการตรวจสอบตามเส้นทางการลำเลียงคน อาวุธ วัตถุระเบิด จากพื้นที่รอบนอกเข้ามายังในเขตเทศบาลเมืองเบตง โดยใช้กำลังร่วม 4 ฝ่าย ตำรวจ อส. ทหารพราน กำลังภาคประชาชน ตั้งจุดตรวจเส้นทางเข้าออกเมืองเบตง
ส่วนพื้นที่ชั้นกลาง ใช้กำลังตำรวจ อส. ทหารพราน กองกำลังภาคประชาชน โดยมีการตั้งจุดตรวจทางยุทธวิธี หรือจุดตรวจลอย ตลอดจนเส้นทางการลาดตระเวน ตรวจค้นบุคคล ยานพาหนะต้องสงสัยที่อาจใช้ในการก่อเหตุ ส่วนพื้นที่ชั้นใน คือ พื้นที่ย่านธุรกิจการค้า ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักที่กลุ่มผู้ก่อเหตุความรุนแรงมุ่งกระทำ ได้มีการบูรณาการร่วมกำลัง 4 ฝ่าย ร่วมกันจัดระเบียบพื้นที่ปลอดภัย ซึ่งแผนปฏิบัติการนี้จะสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน ทั้งคนไทย และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้มากยิ่งขึ้น
พ.ต.อ.สุชาติ สอิด ผกก.สภ.เบตง กล่าวอีกว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบที่ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงยังคงมุ่งเน้นที่จะทำร้ายประชาชนและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งในพื้นที่ อ.เบตง ก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายของฝ่ายตรงข้าม เนื่องจาก อ.เบตง ซึ่งเป็นเมืองเศรษฐกิจอีกอำเภอหนึ่ง
อีกทั้งในช่วงนี้เป็นช่วงสุดท้ายของเดือนถือศีลอดของพี่น้องชาวไทยมุสลิม และมีกลุ่มผู้ใช้แรงงานชาวไทยที่ไปทำงานในประเทศมาเลเซียนับร้อยคนได้เดินทางกลับมาเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลฮารีรายอ หรือเทศกาลวันปีใหม่กับครอบครัวยังภูมิลำเนาของตนเอง จึงจำเป็นจะต้องบูรณาการกำลังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายออกระดมป้องกันเหตุร้ายให้ครอบคลุมพื้นที่ให้มากที่สุด
