โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน.แถลงข่าวเหตุระเบิดมัสยิดและรางรถไฟ ระบุคนทำเป็นพวก “นอกศาสนา”

 
ยะลา - โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. แถลงข่าวเหตุระเบิดหน้ามัสยิดกลางปัตตานี และเหตุลอบวางระเบิดรางรถไฟพื้นที่รือเสาะ พร้อมชี้คนทำเป็นพวก “นอกศาสนา”

วันนี้ (4 ก.ค.) ที่ห้องแถลงข่าว ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยถึงกรณีคนร้ายก่อเหตุลอบวางระเบิดหลายแห่งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ในห้วงนี้ซึ่งเข้าสู่ห้วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน หรือที่เรียกว่าช่วงเอี๊ยะตีก๊าฟ ที่พี่น้องชาวไทยมุสลิมจะต้องประกอบศาสนกิจอย่างเคร่งครัดมากที่สุด แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุก็ยังคงพยายามในการสร้างสถานการณ์หลายรูปแบบในหลายพื้นที่ ทั้งการลอบยิง ลอบวางระเบิดมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ เป็นไปตามความเชื่อที่ถูกบิดเบือนว่าถ้าสร้างสถานการณ์ในช่วงนี้จะได้ผลบุญมากยิ่งขึ้น สำหรับเหตุการณ์ที่สำคัญที่ผ่านมาคือ เหตุคนร้ายลอบวางระเบิดข้างมัสยิดกลางปัตตานี เมื่อคืนวันที่ 3 ก.ค. 59 ที่ผ่านมา เป็นเหตุทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งมาคอยอำนวยความสะดวกให้แก่พี่น้องชาวไทยมุสลิมในการเดินทางมาประกอบพิธีทางศาสนา เสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 3 นาย ในนามของ กอ.รมน.ภาค 4 สน. ต้องขอแสดงความเสียใจต่อญาติของผู้เสียชีวิต ซึ่งทาง สนง.ตำรวจแห่งชาติ ก็จะดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างดีต่อไป

และเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดรางรถไฟในพื้นที่บ้านดือแย หมู่ 4 ต.สาวอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ทำให้รถไฟไม่สามารถวิ่งผ่านได้จากสถานียะลา-สถานีสุไหงโก-ลก ส่งผลให้พี่น้องที่ยากไร้ และใช้บริการเดินทางโดยสารรถไฟกลับภูมิลำเนาเพื่อเตรียมเฉลิมฉลองวันฮารีรายอที่จะถึง ซึ่งถือว่าเหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนโดยตรง

“จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทาง พล.ท.วิวรรธน์ ปฐมภาคย์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้ทุกหน่วยเร่งรัดคดีอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะกรณีลอบวางระเบิดที่หน้ามัสยิดกลางปัตตานี และลอบวางระเบิดรางรถไฟ ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานในการติดตามจับกุมต่อไป ซึ่งท่านแม่ทัพได้ขอเรียกร้องให้ภาคประชาสังคม กลุ่มเอ็นจีโอ พี่น้องประชาชนในพื้นที่ออกมาร่วมกันประณามการก่อเหตุในครั้งนี้ด้วย เนื่องจากว่าถือเป็นการทำลายบรรยากาศในการประกอบศาสนกิจของพี่น้องชาวไทยมุสลิม เป็นการทำลาย และขัดขวางการประกอบศาสนกิจของพี่น้องชาวไทยมุสลิมด้วย ซึ่งพฤติกรรมนี้เป็นพฤติกรรมของพวกนอกศาสนาที่จะต้องได้รับการลงโทษจากพระเจ้า” พ.อ.ปราโมทย์ กล่าว

โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. ยังกล่าวอีกว่า ท่านแม่ทัพภาค 4 ยังได้สั่งการให้เพิ่มมาตรการในการควบคุมพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่เมืองเศรษฐกิจ เพื่อให้พื้นที่มีความปลอดภัย พี่น้องชาวไทยมุสลิมสามารถประกอบศาสนกิจได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำในการดูแลชุมชนล่อแหลม เป้าหมายอ่อนแอให้มากยิ่งขึ้นด้วย