ชาวบ้าน - พนักงานโรงแรมแห่เก็บหอยเสียบ ที่บริเวณชายหาดนพรัตน์ธารา ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังกันอย่างคึกคัก หลังพบหอยเสียบขึ้นมาอาศัยบริเวณหาดทรายจำนวนมาก ขายได้กิโลกรัมละ 120-150 บาท เจ้าหน้าที่รัฐชี้หอยเสียบหายไปจากหาดอ่าวนางนานกว่า 10 ปีแล้ว
วันนี้ (3 ก.ค.) ที่บริเวณชายหาดนพรัตน์ธารา ม.5 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ได้มีชาวบ้าน และพนักงานของโรงแรมที่เลิกจากงานได้ชวนกันไปเก็บหอยเสียบ ตลอดแนวริมชายหาดนพรัตน์ธารา จำนวนมาก เพื่อนำไปทำเมนูเด็ด คือ หอยเสียบดองน้ำปลากินเป็นอาหาร หรือต้มตะไคร้ และบางคนก็นำไปขายเป็นรายได้เสริม สร้างรายได้วันละ 200-300 บาท เนื่องจากหอยเสียบมีราคาสูง กก.ละ 120 บาท หากนำไปแปรรูปดงน้ำปลาก็จะมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 150 บาท โดยชาวบ้านจะใช้วิธีการใช้มือขุดลงไปในหาดทรายลึกประมาณ 2-3 ซม.ก็จะพบหอยฝังอยู่ใต้พื้นทราย ได้เฉลี่ยวันละ 1-5 กิโลกรัม ท่ามกลางความสนใจของนักท่องเที่ยวที่เดินเล่น เฝ้ายืนดูอย่างสนใจ บางคนสอบถามวิธีหาหอย และลองหาดู
นายกีรติ เศรษฐพงค์ อายุ 25 ปี พนักงานโรงแรมย่านหาดนพรัตน์ธารา ม.5 ต.อ่าวนาง กล่าวว่า หลังจากที่ทราบว่ามีหอยเสียบจำนวนมากถูกคลื่นซัดขึ้นฝั่งตลอดแนวหาดนพรัตน์ธารา หลังจากหมดเวลาทำงานก็ได้ชวนเพื่อนๆ ประมาณ 4-5 คน ไปช่วยกันเก็บเพื่อนำมาดองเค็มด้วยน้ำปลา ทำเป็นอาหารเก็บไว้กินกันในกลุ่มญาติ และเพื่อนพนักงานโรงแรม หากว่านำไปขายตามสดๆ ตลาดนัดมีราคาประมาณกิโลกรัมละ 120 บาท ถ้าดองน้ำปลาแล้วจะมีราคา กก.ละ 150 บาท แต่สำหรับตนจะไม่ขายเก็บไว้กินเอง โดยจะพบมากในช่วงมรสุม
นายแสน ศรีงาม ประมงจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า สำหรับหอยเสียบเป็นหอย 2 ฝา ลักษณะคล้ายหอยวิ่ง หรือหอยหวาน แต่มีขนาดเล็กมากประมาณ 1 เซนติเมตร ฝังอยู่ใต้พื้นทรายอยู่กันเป็นกลุ่มก้อน เนื้อมีรสชาติคล้ายกับหอยหวาน พบมากในช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคมของทุกปี แต่ได้หายไปจากทะเลกระบี่นานเกือบ 10 ปีแล้ว ส่วนสาเหตุที่กลับมามีมากขึ้นอีกครั้งเนื่องจากทรัพยากรในทะเลกระบี่ กลับมามีความอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง ประกอบกับมีการอนุรักษ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเห็นได้จากปีที่ผ่านมาก็พบหอยอาศัยอยู่ในบริเวณชายหาดดังกล่าวจำนวนมากเช่นกัน ทำให้ชาวบ้านมีแหล่งอาหารเพิ่มขึ้น
วันนี้ (3 ก.ค.) ที่บริเวณชายหาดนพรัตน์ธารา ม.5 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ได้มีชาวบ้าน และพนักงานของโรงแรมที่เลิกจากงานได้ชวนกันไปเก็บหอยเสียบ ตลอดแนวริมชายหาดนพรัตน์ธารา จำนวนมาก เพื่อนำไปทำเมนูเด็ด คือ หอยเสียบดองน้ำปลากินเป็นอาหาร หรือต้มตะไคร้ และบางคนก็นำไปขายเป็นรายได้เสริม สร้างรายได้วันละ 200-300 บาท เนื่องจากหอยเสียบมีราคาสูง กก.ละ 120 บาท หากนำไปแปรรูปดงน้ำปลาก็จะมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 150 บาท โดยชาวบ้านจะใช้วิธีการใช้มือขุดลงไปในหาดทรายลึกประมาณ 2-3 ซม.ก็จะพบหอยฝังอยู่ใต้พื้นทราย ได้เฉลี่ยวันละ 1-5 กิโลกรัม ท่ามกลางความสนใจของนักท่องเที่ยวที่เดินเล่น เฝ้ายืนดูอย่างสนใจ บางคนสอบถามวิธีหาหอย และลองหาดู
นายกีรติ เศรษฐพงค์ อายุ 25 ปี พนักงานโรงแรมย่านหาดนพรัตน์ธารา ม.5 ต.อ่าวนาง กล่าวว่า หลังจากที่ทราบว่ามีหอยเสียบจำนวนมากถูกคลื่นซัดขึ้นฝั่งตลอดแนวหาดนพรัตน์ธารา หลังจากหมดเวลาทำงานก็ได้ชวนเพื่อนๆ ประมาณ 4-5 คน ไปช่วยกันเก็บเพื่อนำมาดองเค็มด้วยน้ำปลา ทำเป็นอาหารเก็บไว้กินกันในกลุ่มญาติ และเพื่อนพนักงานโรงแรม หากว่านำไปขายตามสดๆ ตลาดนัดมีราคาประมาณกิโลกรัมละ 120 บาท ถ้าดองน้ำปลาแล้วจะมีราคา กก.ละ 150 บาท แต่สำหรับตนจะไม่ขายเก็บไว้กินเอง โดยจะพบมากในช่วงมรสุม
นายแสน ศรีงาม ประมงจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า สำหรับหอยเสียบเป็นหอย 2 ฝา ลักษณะคล้ายหอยวิ่ง หรือหอยหวาน แต่มีขนาดเล็กมากประมาณ 1 เซนติเมตร ฝังอยู่ใต้พื้นทรายอยู่กันเป็นกลุ่มก้อน เนื้อมีรสชาติคล้ายกับหอยหวาน พบมากในช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคมของทุกปี แต่ได้หายไปจากทะเลกระบี่นานเกือบ 10 ปีแล้ว ส่วนสาเหตุที่กลับมามีมากขึ้นอีกครั้งเนื่องจากทรัพยากรในทะเลกระบี่ กลับมามีความอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง ประกอบกับมีการอนุรักษ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเห็นได้จากปีที่ผ่านมาก็พบหอยอาศัยอยู่ในบริเวณชายหาดดังกล่าวจำนวนมากเช่นกัน ทำให้ชาวบ้านมีแหล่งอาหารเพิ่มขึ้น