นราธิวาส - จนท.ผนึกกำลังปิดล้อมตรวจค้นบ้านพักต้องสงสัยจนเกิดการยิงปะทะเดือดกับโจรใต้ ก่อนวิสามัญดับ 2 ราย ด้าน จนท.เจ็บ 2 นาย พร้อมยึดปืนสงครามได้ 2 กระบอกที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส
วันนี้ (2 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.อ.พสิษฐ์ ชาญเลขา ผบ.กรมทหารพรานที่ 46 ได้สนธิกำลัง 3 ฝ่าย ประกอบด้วย ฉก.นราธิวาส 30 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รือเสาะ และฝ่ายปกครอง จำนวน 4 ชุดปฏิบัติการ ใช้กฎอัยการศึกในการปิดล้อมตรวจค้นบ้านพักไม่มีเลขที่ หมู่ 4 บ้านอูยิ ต.ลาโละ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส หลังสืบทราบว่า เป็นแหล่งซ่องสุมของแกนนำระดับปฏิบัติการของกองกำลังติดอาวุธ RKK
โดยเมื่อถึงเป้าหมายเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังกันโอบล้อมบ้านหลังดังกล่าว พร้อมประสานให้โต๊ะอิหม่ามพูดจาหว่านล้อมให้ชายฉกรรจ์ที่อาศัยอยู่ในบ้านพัก จำนวน 3-4 คน วางอาวุธปืน และมอบตัวแต่โดยดี แต่ชายฉกรรจ์ที่อาศัยอยู่ในบ้านพักกลับใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่เจ้าหน้าที่ จนทั้งสองฝ่ายได้เปิดฉากยิงปะทะกันเป็นระลอกๆ นานกว่า 5 นาที คนร้ายเห็นจวนตัวจึงได้ใช้อาวุธปืนยิงเบิกทาง กระโดดหนีออกทางหน้าต่าง และประตูด้านหลังของบ้านพักหลังดังกล่าว
จากนั้นเจ้าหน้าที่ที่ได้โอบล้อมไว้จึงได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มคนร้าย และได้เกิดการปะทะกันอีกระลอกที่ 2 ทำให้คนร้ายเสียชีวิต 2 คน ส่วนที่เหลือสามารถอาศัยความชำนาญพื้นที่หลบหนีไปได้ และจากการตรวจสอบผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ 1.นายอับดุลอาแซ ซิกะ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 240/1 ม.1 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส และใกล้ศพพบอาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง
จากการตรวจสอบประวัติในเบื้องต้น พบผู้ตายมีหมายจับ ป.วิ อาญา ก่อคดีความมั่นคง จำนวน 3 คดี และ 2.ชายไม่ทราบชื่อ ในเบื้องต้นคาดว่าเป็น นายอาลี สุหลง ซึ่งใกล้ศพพบอาวุธปืนอาก้า จำนวน 1 กระบอก ส่วนเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย คือ 1.ส.อ.มูฮัมหมัดซาบีดี บูระ ซึ่งถูกกระสุนปืนของคนร้ายที่บริเวณมือซ้าย และ 2.ส.อ.กำพล วิสิก ถูกกระสุนปืนของคนร้ายเฉี่ยวที่ศีรษะ ซึ่งทั้ง 2 นาย สังกัดสำนักการข่าว กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ซึ่งเพื่อนทหารได้ช่วยกันนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลรือเสาะ เป็นการเร่งด่วน
ต่อมา พล.ต.ชินวัฒน์ แม้นเดช รองแม่ทัพภาค 4 และ พล.ต.เอกรัตน์ ช้างแก้ว ผบ.ฉก.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ร่วมเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และได้ประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกจุดเกิดเหตุได้ทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อป้องกันกลุ่มคนร้ายจะหยิบยกประเด็นดังกล่าวไปประชาสัมพันธ์ชวนเชื่อให้ประชาชนต่อต้านการทำงานของเจ้าหน้าที่ทางการในอนาคต
และก่อนจบภารกิจ เจ้าหน้าที่ได้นำศพของ 2 คนร้ายส่งโรงพยาบาลรือเสาะ เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่จะมอบศพให้ญาติไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป