ปัตตานี - กองกำลังทหารพรานจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดยุทธการไล่ล่ากลุ่มก่อความไม่สงบทางอากาศเพื่อเข้าถึงพื้นที่เป้าหมายบริเวณป่าเขา ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 5 ราย ไปสอบสวน
วันนี้ (13 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากช่วงที่ผ่านมา ยังคงเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างต่อเนื่อง ทั้งเหตุลอบวางระเบิด ลอบยิงเจ้าหน้าที่ ประชาชน ล่าสุด ลอบวางระเบิดใน อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ทำให้นายทหาร ประชาชน นักเรียน บาดเจ็บ 7 ราย ซึ่งจากการรายงานของสายข่าวความมั่นคง ระบุว่า กลุ่มก่อความไม่สงบต้องการตอบโต้หลังการปะทะคนร้ายถูกวิสามัญ 4 ศพ เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และยังมีการแจ้งเตือนอย่างต่อเนื่องว่าจะก่อกวนสร้างสถานการณ์ และเพื่อเป็นการสกัดกั้น และป้องกันโดยเฉพาะในห้วงของการถือศีลอดในเดือนรอมฎอนนี้
ทำให้ล่าสุด พล.ต.โภชน์ นวลบุญ ผู้บังคับกองกำลังทหารพรานจังหวัดชายแดนภาคใต้ ใช้เฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์ก ของหน่วยบินอโณทัย เพื่อสนับสนุนทางอากาศในการบินสำรวจพื้นที่ป่าเขา แม่น้ำ ในเขตรอยต่อ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อตรวจสอบพื้นที่ และแหล่งพักพิง หรือฐานที่มั่นของกลุ่มก่อความไม่สงบที่ยังคงเคลื่อนไหว พร้อมทั้งได้สั่งการให้กองกำลังทหารพรานใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สลับสับเปลี่ยนเดินลาดตระเวนตามยุทธวิธีปิดล้อมแหล่งที่คาดว่ากลุ่มก่อความไม่สงบจะใช้เป็นแหล่งหลบซ่อนตัว
ซึ่งที่ผ่านมา พบว่ากลุ่มก่อความไม่สงบจะย้ายแหล่งกบดานอยู่เป็นประจำเพื่อหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ โดยล่าสุด ผลการปฏิบัติในครั้งนี้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 5 ราย ในพื้นที่ อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี หลังจากมีท่าทีพิรุธแต่ไม่พบอาวุธ หรือสิ่งผิดกฎหมาย จึงได้นำทั้ง 5 รายไปสอบสวนตรวจสอบประวัติ พร้อมเก็บรอยนิ้วมือ และดีเอ็นเอเพื่อนำไปตรวจสอบกับแฟ้มคดีต่างๆ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องต่อการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบหรือไม่
พล.ต.โภชน์ นวลบุญ ผู้บังคับกองกำลังทหารพรานจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า เพื่อต้องการจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และจำกัดเสรีการเคลื่อนไหวในทุกพื้นที่ ไม่ให้กลุ่มก่อความไม่สงบมีโอกาสวางแผนการในการก่อเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะใช้เชิงรุกในการปฏิบัติอย่างเด็ดขาด เชื่อว่าระดับแกนนำ หรือระดับสั่งการบางคนยังคงอยู่ในพื้นที่ราบโดยมีแนวร่วม หรือผู้มีอิทธิพลให้ความช่วยเหลือ แต่ส่วนใหญ่ทั้งระดับสั่งการห รือปฏิบัติการยังกบดานในพื้นที่ป่าเขา
ซึ่งตลอดเวลาเจ้าหน้าที่มีข้อมูลความเคลื่อนไหวมาตลอด และหลายครั้งการปฏิบัติก็สามารถจับกุม กวาดล้าง หรือถึงขั้นเกิดเหตุปะทะคนร้ายถูกวิสามัญ และจับกุมได้หลายราย ซึ่งเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นก็อาจเป็นเพราะคนร้ายออกมาตอบโต้ด้วยวิธีก่อกวน และให้เดือนนี้ถือเป็นเดือนรอมฎอนอันประเสริฐของชาวมุสลิม ทางเจ้าหน้าที่ก็จะดูแลความปลอดภัย เพื่อชาวไทยมุสลิมได้ประกอบศาสนกิจได้อย่างเต็มที่