เรื่อง/ภาพ : เจษฎา สิริโยทัย
--------------------------------------------------------------------------------
ชาวมาเลเซีย-สิงคโปร์ แห่ล่องเรือชมธรรมชาติท่ามกลางลำน้ำ ท้องฟ้า หุบเขา และเที่ยวชมสัตว์ป่าตลอดลำน้ำป่าฮาลา-บาลา ก่อนไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนเกาะทวด นักท่องเที่ยวเผยเชื่อมั่นในมาตรการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก อ.เบตง จ.ยะลา ว่า วันนี้ (11 มิ.ย.) มีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย และชาวสิงคโปร์จำนวนมากเดินทางไปเป็นกรุ๊ปทัวร์ และเช่าเหมาเรือท่องเที่ยวเชิงชมธรรมชาติกลางลำน้ำ ท้องฟ้า หุบเขา และส่องสัตว์ป่าตลอดลำน้ำในเขตอุทยานแห่งชาติผืนป่าฮาลา-บาลา อีกทั้งได้แวะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนเกาะทวด โดยการที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกลับมาเที่ยวในพื้นที่ อ.เบตง เนื่องจากเชื่อมั่นในมาตรการรักษาความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ไทย
นายณรงค์ ศรีนิลสิทธิ เจ้าของเรือแพนำเที่ยวป่าฮาลา-บาลา เปิดเผยว่า ค่าใช้จ่ายในการล่องเรือเหมาลำตกลำละ 500 บาทต่อ 5 คน หากเช่าเหมาลำบรรทุกได้ 25 คนไปกลับจะรวมเป็น 3,500 บาท และถ้าค้างคืนราคาจะเป็น 5,500 บาท พร้อมมีบริการเครื่องดื่ม และอุปกรณ์คาราโอเกะไว้คอยบริการ
ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ และช่วงเทศกาลต่างๆ จะมีนักท่องเที่ยวที่ส่วนใหญ่เป็นชาวมาเลเซีย และสิงคโปร์ รวมถึงอินโดนีเซียเข้ามาท่องเที่ยวจำนวนมาก ส่วนคนไทยต้องยอมรับว่าเป็นเพราะข่าวความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ทำให้นักท่องเที่ยวไทยไม่กล้าเข้ามา
“จริงๆ แล้วคำว่า ฮาลา-บาลา ถือว่ามาพร้อมความรู้สึกที่มากมนต์เสน่ห์ เช่น การเข้าถึงยากลำบาก อันตราย แต่แท้ที่จริงเข้าถึงง่ายกว่าแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ เสียอีก ไม่เชื่ออยากให้มาลองกัน” เจ้าของเรือแพนำเที่ยวป่าฮาลา-บาลา กล่าว และเสริมว่า
เมื่อลงเรือแล้วนักท่องเที่ยวจะได้ชมความงามของทะเลสาบฮาลา-บาลา การล่องเรือฮาลาบาลาจะมีคนขับเรือให้นั่งสบายๆ แวะให้นักท่องเที่ยวชมตามที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเกาะทวด เกาะน้ำจืดขนาดเล็กที่ตั้งอยู่กลางทะเลสาบฮาลาบาลา ใช้เวลาประมาณ 50 นาที จากท่าเรือตาพะเยา หมู่ที่ 11 ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา ก็มาถึงเกาะทวด บนเกาะจะเป็นที่ประดิษฐานหลวงปู่ทวด ในช่วงวันหยุดบนเกาะจะพบนักท่องเที่ยวชาวไทยที่แวะเวียนเข้ามามาก และยังมีชาวต่างชาติจำนวนมากที่ไปเที่ยวเกาะทวด โดยเฉพาะกับชาวมาเลย์ และสิงคโปร์ เพราะเขาศรัทธามากถึงขนาดเหมาเรือมาไหว้พระแล้วก็กลับ
“เนื่องจากเกาะทวด เป็นเกาะที่มีขนาดเล็กมาก จึงไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ โดยปกติจะมีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน อ.ธารโต ตั้งฐานปฏิบัติการคอยดูแลความปลอดภัย และให้ความช่วยเหลือแก่นักท่องเที่ยวอยู่ตลอดเวลา นอกจากบนเกาะจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้กราบไหว้บูชาแล้ว ยังมีเรือคายัคให้ทุกคนพายเล่นกันอีกด้วย” นายณรงค์ กล่าว