ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - มรภ.สงขลา ผงาดชนะเลิศประกวดวงมโหรีเครื่องเดี่ยว ระดับอุดมศึกษา ครองถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พ่วงรางวัลพิเศษอีกเพียบ หวังสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ไม่ทอดทิ้งดนตรีไทย
วันนี้ (7 มิ.ย.) ผศ.ไชยวุธ โกศล ประธานโปรแกรมวิชาดนตรีไทย คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) เปิดเผยว่า นักศึกษาโปรแกรมวิชาดนตรีไทย ได้รับรางวัลชนะเลิศประกวดดนตรีไทย ระดับภาคใต้ ประจำปี 2559 ประเภทวงมโหรีเครื่องเดี่ยว ระดับอุดมศึกษา เพลงเขมรปี่แก้ว 3 ชั้น ครองถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และรับเกียรติบัตร พร้อมเงินรางวัล 12,000 บาท จาก ผศ.ดร.ประโยชน์ คุปต์กาญจนากุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี (มรส.)
ซึ่งนักศึกษา มรภ.สงขลา สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ได้รับรางวัลพิเศษอื่นๆ อีก ได้แก่ รางวัลนักดนตรีไทยดีเด่น ประเภทขับร้อง นายศิริชัย เวชกุล ซอสามสาย นายพัทธดนย์ สัมฤทธิ์ ระนาดทุ้มมโหรี นายวรพล ธานีรัตน์ โทน-รำมะนา นายเอกรักษ์ นุราช โหม่ง นายทนงศักดิ์ รัตนพันธ์ ฉาบเล็ก น.ส.กิ่งกาญจน์ ถิกิจ นอกจากนั้น ยังได้รับรางวัลชนะเลิศประกวดเดี่ยวจะเข้ ระดับอุดมศึกษา เพลงจีนขิมใหญ่ 2 ชั้น โดย นายจักรกฤษ โยมเนียม รับโล่รางวัลจากผู้อำนวยการสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มรส. และเกียรติบัตร พร้อมเงินรางวัล 3,000 บาท
ประธานโปรแกรมวิชาดนตรีไทย กล่าวว่า การประกวดครั้งนี้ มีนักศึกษา มรภ.สงขลา เข้าร่วม 14 คน พร้อมด้วยอาจารย์ผู้ควบคุมวง และฝึกซ้อม 4 คน ได้แก่ ผศ.ไชยวุธ โกศล อ.บรรเทิง สิทธิแพทย์ อ.รัชวิช มุสิการุณ และ อ.สุณิสา ศิริรักษ์ รางวัลที่ได้มาถือเป็นความภูมิใจของทางโปรแกรมฯ สะท้อนให้เห็นถึงการจัดการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ สามารถสร้างนักศึกษา และผลิตบัณฑิตทางดนตรีไทยที่มีความรู้ ความสามารถ มีศักยภาพเพียงพอที่จะออกไปประกอบอาชีพด้านดนตรีไทยได้อย่างเต็มภาคภูมิ
ทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงความมานะพยายาม ความตั้งใจ ความสามัคคี และความเสียสละ ร่วมแรงร่วมใจกันฝึกซ้อมจนประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ แม้จะมีอุปสรรคในเรื่องการรวมตัวนักดนตรี เพราะเป็นการจัดในช่วงปิดภาคเรียน นักศึกษาส่วนใหญ่กลับบ้าน บางคนมีงานไปเล่นดนตรีกับคณะหนังตะลุง คณะโนราโรงครู แต่นักศึกษาก็จัดการโทร.ตามกันมา เครื่องไหนขาดก็หาคนที่พอเล่นได้มาเสริมให้เต็มวง
“อุปสรรคอีกอย่างคือ ด้วยความที่เป็นงานด่วนเราจึงไม่ได้ตั้งงบประมาณไว้ ทีแรกจะไม่ส่งแล้ว จนสุดท้ายก่อนประกวดสักอาทิตย์ นักศึกษามาบอกว่า รวมตัวกันได้แล้วจะขอไปประกวด ตนจึงประสาน นายวีระศักดิ์ อักษรถึง คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ ของบประมาณสนับสนุน ซึ่งต้องขอขอบคุณ ดร.ครวญ บัวคีรี รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและวิจัย ที่ให้ความอนุเคราะห์จัดสรรงบประมาณเป็นค่าเช่าเหมารถบัส และค่าเบี้ยเลี้ยงสำหรับนักศึกษาในการไปประกวด รวมทั้งขอบคุณสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มรส. ที่อนุเคราะห์จัดหาที่พักให้นักศึกษาของเราแม้จะมีจำนวนน้อย เป็นกลุ่มคนเล็กๆ ในมหาวิทยาลัยที่ไม่ค่อยมีบทบาทสักเท่าไหร่ แต่ก็เป็นบุคคลที่มีคุณภาพ ทุกคนทุ่มเทพลังกาย พลังใจ ยอมเหน็ดเหนื่อยเพื่อฟันฝ่าอุปสรรคไปให้ได้ เราในฐานะครูเมื่อได้เห็นความตั้งใจอย่างนี้แล้ว รู้สึกชื่นชมต่อลูกศิษย์ คิดว่าเด็กๆ เหล่านี้จะสามารถจบออกไปเป็นบัณฑิตที่มีคุณภาพอย่างแน่นอน” ผศ.ไชยวุธ กล่าวและว่า
ปัจจุบัน เยาวชนให้ความสนใจต่อดนตรีไทยค่อนข้างน้อย เด็กหลายคนยังไม่รู้จักเครื่องดนตรีไทย ไม่รู้จักวงดนตรีไทย และแน่นอนที่สุดไม่รู้จักเพลงไทย แต่ต้องย้อนถามกลับมาว่าเพราะเหตุใดเด็กจึงไม่ค่อยรู้จักดนตรีไทย คิดว่าเหตุผลสำคัญมากที่สุดน่าจะเป็นเพราะไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับดนตรีไทย สังเกตได้ว่ากิจกรรมทางดนตรีไทยมีน้อย เด็กหาโอกาสที่จะดู จะฟังดนตรีไทยได้ยาก ต่างจากดนตรีสากลที่เปิดกรอกหูเราอยู่ทุกวัน เราย่อมคุ้นเคยต่อดนตรีสากลมากกว่าอยู่ดี
ดังนั้น หากสร้างโอกาส สร้างสถานการณ์ให้เด็ก และเยาวชนได้สัมผัสดนตรีมากขึ้น ทั้งการเรียนในระบบโรงเรียน กิจกรรมเสริมการเรียนรู้ กิจกรรมทางสังคม เพิ่มโอกาสให้ดนตรีไทยได้เข้าไปอยู่ในสื่อโฆษณา สื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ เด็กๆ รวมทั้งคนทั่วไปก็จะคุ้นเคยกับดนตรีไทยไปเอง ในที่สุดดนตรีไทยก็จะอยู่ในวิถีชีวิต อยู่ในความรู้สึก ความเข้าใจ ความซาบซึ้ง ความรักความหวงแหนในวัฒนธรรมไทยก็จะเกิดขึ้นเอง ขอฝากไปยังผู้หลักผู้ใหญ่ หรือผู้ที่ดูแลด้านนโยบายให้สนับสนุนการจัดกิจกรรมทางดนตรีให้มากขึ้น เปิดโอกาสให้ดนตรีมีที่ยืน มีที่เล่น มั่นใจได้เลยว่าดนตรีไทยจะคงอยู่คู่สังคมไทย ไม่สูญหายไปอย่างแน่นอน
ด้าน นายจักรกฤษ โยมเนียม นักศึกษาโปรแกรมวิชาดนตรีไทย กล่าวว่า ไม่คาดหวังว่าจะได้รางวัล การประกวดดนตรีไทยในครั้งนี้ถือเป็นเวทีใหญ่ที่สุดที่ได้เข้าร่วม ตนและเพื่อนๆ ใช้เวลาฝึกซ้อมประมาณ 1 อาทิตย์ เมื่ออยู่บนเวทีพยายามทำให้ดีที่สุด เพราะกรรมการจะดูจากทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นบุคลิกภาพ ความพร้อมเพรียงในการแสดง และที่สำคัญคือ ความไพเราะทางดนตรี
นายพัทธดนย์ สัมฤทธิ์ นักศึกษาดนตรีไทยอีกคนหนึ่ง กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ คุ้มค่าที่พยายามฝึกฝนอย่างหนักเป็นเวลาหลายปีกว่าจะมีวันนี้ ถือเป็นความสำเร็จสูงสุดของชีวิต จากนี้ไปสิ่งที่ยากกว่าคือ การรักษาแชมป์ไว้ให้ได้ ดังนั้น จึงต้องหมั่นฝึกซ้อมเพื่อรักษามาตรฐาน ตนอยากเป็นครูสอนดนตรี เพื่อถ่ายทอดความรู้ให้แก่เยาวชนรุ่นหลัง
ขณะที่ น.ส.สิรินดา พรหมสถิต นักศึกษาผู้เป่าขลุ่ยเพียงออให้แก่วง กล่าวว่า ตอนนี้ผู้หญิงเลือกเรียนดนตรีไทยน้อยลง จำนวนนักศึกษาที่สนใจเรียนด้านนี้ก็ดูเหมือนจะน้อยลงเรื่อยๆ อยากให้เยาวชนหันมาเรียนดนตรีไทยกันเยอะๆ ซึ่งโปรแกรมวิชาดนตรีไทยของ มรภ.สงขลา มีศักยภาพในการเรียนการสอนไม่ด้อยไปกว่าสถาบันการศึกษาอื่นๆ
นายเทพธาดา สิทธิแพทย์ ผู้ตีระนาดเอกมโหรี กล่าวว่า มรภ.สงขลา มีความพร้อมในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ อาจารย์ผู้สอน ตลอดจนหลักสูตรที่เน้นให้นักศึกษามีโอกาสได้สั่งสมประสบการณ์ทางดนตรีนอกห้องเรียน เช่น งานรับเสด็จสมเด็จพระเทพฯ งานดนตรีไทยอุดมศึกษา งานแสดงดนตรีไทยที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยให้ชาวต่างชาติได้รู้จัก และได้รับการตอบรับจากผู้ชมอย่างดีมาก