ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - “ผู้ว่าฯ สงขลา” ส่ง “ปลัดอำเภอ” วิ่งล็อบบี้กลุ่มค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ถามเหตุผลทำไมต้องออกมาต้าน พร้อมชวนขึ้นศาลากลางเคลียร์ปัญหาพรุ่งนี้
วันนี้ (31 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ ม.4 บ.ปากบาง อ.เทพา จ.สงขลา นางรอกีเย๊าะ สะมะแอ เครือข่ายคนสงขลา-ปัตตานีไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน กล่าวว่า วันนี้ นายชูศักดิ์ สาระมุณี ป้องกัน จ.สงขลา และนายพีรวัส ณ ตะกั่วทุ่ง ปลัดอำเภอเทพา พร้อมคนขับรถกระบะ 2 คัน เดินทางมาพบตนเองที่บ้านเพื่อมาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา
โดยปลัดอำเภอเทพา มาถามว่า ต้องการอะไรบ้างที่คัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน และมีเหตุผลอะไรจึงคัดค้าน ตนไม่ได้ตอบคำถามนี้ ก่อนถามกลับไปว่า ใครใช้ให้มาหา จึงได้ทราบว่ามาในนามของผู้ว่าราชการจังหวัด เมื่อตนได้ยินว่ามาในนามของผู้ว่าฯ จึงได้ถามต่อว่า ทำไมผู้ว่าฯ ถึงไม่ตอบจดหมายเลย เพราะที่ผ่านมา ทางเครือข่ายฯ ได้ยื่นหนังสือไป 2 ครั้ง แต่ก็เงียบหายไป
ทางปลัดอำเภอเทพา กล่าวว่า อาจเป็นเพราะช่วงที่ไปยื่นหนังสือให้นั้นผู้ว่าฯ คงจะไม่อยู่ เมื่อได้ยินคำตอบแบบนั้นก็รู้สึกโกธรมากแต่ไม่ได้ตอบโต้อะไร เพียงแต่คิดในใจว่าคนเหล่านี้คิดอะไรกับประชาชน ทำเป็นเล่นไปทุกเรื่อง ทั้งที่โรงไฟฟ้าถ่านหินเป็นเรื่องจริงจัง มีผลกระทบต่อชีวิตประชาชน ก่อนเดินทางกลับ ปลัดฯ ยังกล่าวว่า หากต้องการอะไรอยากให้ไปพบผู้ว่าฯ ในวันที่ 1 มิ.ย.2559 นี้ แต่ตนก็ยังไม่รับปากเพราะต้องปรึกษากับทางเครือข่ายฯ ก่อน
นางรอกีเย๊าะ กล่าวอีกว่า 2 ปีกว่าที่มีการคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ทางเครือข่ายฯ ได้มีการตั้งคำถาม และส่งหนังสือไปยังอำเภอจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายครั้ง แต่ไม่เคยได้รับคำอธิบาย หรือชี้แจงใดๆ เหตุผลที่ต้องคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา นั้นเพราะเกิดผลกระทบต่อคนในพื้นที่ และใกล้เคียง เป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย 2,200 เมกะวัตต์ ตั้งบนเนื้อที่ 2,960 ไร่ ริมทะเลตำบลปากบาง อ.เทพา จ.สงขลา ใช้ถ่านหินที่อ้างว่าสะอาดจากอินโดนีเซีย ซึ่งต้องเผาถ่านหินถึงวันละ 23 ล้านกิโลกรัม หรือกว่า 1,000 รถบรรทุกต่อวัน ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสุขภาพ คนเทพา หาดใหญ่ สงขลา และปัตตานี จะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะเป็นมะเร็ง และโรคเรื้อรังต่างๆ จากสารพิษที่รับเข้าไปในร่างกายต่อเนื่องเป็น 10 ปี
โรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา มีการเผาถ่านหินมากถึงวันละ 23 ล้านกิโลกรัม ตลอด 24 ชั่วโมง มลพิษทางอากาศทั้งควันที่มองเห็น และสารพิษที่มองไม่เห็นจะกระจายกว้างมาถึงทั้งหาดใหญ่ สงขลา และปัตตานี ปลาในทะเลสงขลา-ปัตตานี จะปนเปื้อนโลหะหนัก และสารพิษมากมาย แม้จะแก้ตัวว่าจะไม่เกินค่ามาตรฐาน แต่การกินอาหารที่ปนเปื้อนยาวนานเป็น 10 ปี ย่อมส่งผลเสีย และเป็นโรคมะเร็ง ประมงพื้นบ้านบ้านปากบาง และใกล้เคียงที่มีเรือประมงพื้นบ้านกว่า 300 ลำ จะทยอยล่มสลาย เพราะมีสัตว์ทะเลได้รับผลกระทบ
ผลกระทบจากบ่อเก็บขี้เถ้าถ่านหินขนาดกว่า 1,000 ไร่ แม้จะอ้างว่าปูด้วยแผ่นพลาสติกหนาไม่ให้น้ำซึมลงดิน แต่มรสุม และพายุฝนตกหนักอาจทำให้บ่อเก็บขี้เถ้าเกิดน้ำล้น เถ้าถ่านหินที่เต็มไปด้วยโลหะหนัก และความสกปรกถูกชะลงสู่ผืนดิน แหล่งน้ำและท้องทะเล ท้องทะเลจะเป็นสีดำเหมือนที่มาบตาพุด และบ่อเก็บเถ้าจะอยู่อีกได้เป็นร้อยปี แม้ว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินที่มีอายุใช้งาน 40 ปี จะปิดตัวลงไปแล้วก็ตาม
โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ต้องย้ายชาวบ้านออกจากพื้นที่กว่า 200 ครัวเรือน จำนวนประชากรกว่า 1,000 คน ยังไม่นับชุมชนรอบข้างที่อาจต้องย้ายในอนาคตเพราะทนมลพิษไม่ไหว นี่คือ ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาที่ชัดเจน ก็ขอฝากไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ให้ทราบว่า ทางออกของปัญหามีทางเดียวคือ ยกเลิกโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา