ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เกษตรกรใน จ.สงขลา ปลูกกล้วยหิน กับกล้วยน้ำว้าในแปลงเดียวกัน สร้างรายได้ต่อเนื่องในระยะยาว ราคาดี ตลาดต้องการสูง โดยเฉพาะกล้วยหินที่กำลังเป็นที่นิยมของตลาด ทั้งแปรรูป และขายเป็นอาหารนก
การปลูกกล้วยเป็นอีกพืชผลทางการเกษตรที่น่าสนใจมาก เพราะลงแรงปลูกเพียงแค่ครั้งเดียวแต่สามารถสร้างรายได้ให้แก่ชาวสวนอย่างต่อเนื่อง เพราะแตกหน่อแตกกอไปเรื่อยๆ และปริมาณความต้องการของตลาดยังต้องการสูงเป็นอย่างมาก
วันนี้ (27 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวจึงได้พาไปดูตัวอย่างที่สวนของ นายนิวัฒน์ เนตรทองคำ อายุ 45 ปี เกษตรกรในพื้นที่บ้านหน้าโตน หมู่ 7 ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งทำการเกษตรแบบผสมผสาน และปัจจุบัน ได้กลายเป็นจุดเรียนรู้อาชีพเสริมยางพาราด้วย โดยปลูกกล้วยหิน และกล้วยน้ำว้า ในเนื้อที่ 4 ไร่อย่างละครึ่ง ซึ่งขณะนี้เริ่มออกเครือเต็มสวน สามารถเก็บขายได้ทุกวัน
นายนิวัฒน์ บอกว่า ข้อดีของการปลูกกล้วย โดยเฉพาะกล้วยหิน คู่กับกล้วยน้ำว้าคือ กล้วยทั้ง 2 ชนิดตลาดต้องการสูงมาก และราคาดี ตกหวีละ 35-50 บาทเลยทีเดียว โดยเฉพาะกล้วยหิน ซึ่งยังมีพื้นที่ปลูกน้อย และปัจจุบัน กลายเป็นกล้วยที่ได้รับความนิยมสูงมาก เพราะสามารถนำไปแปรรูปได้หลากหลาย เช่น กล้วยฉาบ หรือต้มกินกับมะพร้าว หรือนำไปเชื่อมเป็นของหวาน
แต่ที่เด่นที่สุด คือ นำไปเป็นอาหารนก เช่น ในกลุ่มของผู้เลี้ยงนกกรงหัวจุก หรือนกปรอทหัวโขน ที่นิยมเลี้ยงประชันเสียงกันในภาคใต้ และจะนำกล้วยหินไปเป็นอาหารให้แก่นก ที่สำคัญ หยวกกล้วยหินเป็นหยวกกล้วยที่อร่อยที่สุดในบรรดาหยวกกล้วยทุกชนิด และหยวกกล้วยหินขายได้ถึงกิโลกรัมละ 30 บาท ต้นเดียวขายได้หลายร้อยบาท ส่วนกล้วยน้ำว้าก็ไม่ต้องพูดถึงเพราะเป็นราชาของกล้วย ขายได้ตลอดเพราะสารพัดประโยชน์
นายนิวัฒน์ บอกอีกว่า การปลูกกล้วยหิน และกล้วยน้ำว้า การดูแลเหมือนกันทุกอย่าง แต่จะแตกต่างกันตรงลำต้นที่กล้วยหินจะใหญ่กว่า โดยจะเริ่มออกเครือเมื่ออายุ 7-8 เดือน ส่วนเทคนิคง่ายๆ ที่ทำให้เครือใหญ่ ผลอวบ ต้องเน้นการให้น้ำ และให้ปุ๋ยบ่อยๆ เดือนละครั้ง โดยใช้ปุ๋ยคอกเป็นหลัก ข้อดีของการปลูกกล้วย คือ แทบไม่มีศัตรูพืชรบกวน และไม่ต้องดูแลอะไรมาก ราคาดี ตลาดต้องการสูง สามารถปลูกแซมร่วมกับพืชอื่นๆ หรือปลูกรวมกันเป็นแปลงเดียวก็ได้
ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดการปลูกกล้วยหิน และกล้วยน้ำว้า ให้ประสบความสำเร็จติดต่อได้ที่ นายนิวัฒน์ โทร. 08-7390-7426