ตรัง - ครอบครัวเฟิร์ส หนึ่งในผู้ต้องหาคดีข่มขืนเด็ก 8 ขวบ ขอความเป็นธรรมวอนอย่าเพิ่งเชื่อก่อนผลตรวจออก เชื่อลูกชายไม่ผิดอย่าเพิ่งเชื่อไปตามข่าว เพราะความจริงก็คือความจริง
วันนี้ (17 พ.ค.) จากกรณีที่ น้องเก๋ (นามสมมติ) เด็กหญิงวัย 8 ขวบ ชาว ต.หนองตรุด อ.เมือง จ.ตรัง ได้ถูกคนร้ายหลอกให้กินน้ำอัดลมผสมสารเมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) จนทำให้เกิดอาการคลุ้มคลั่ง ก่อนแอบย่องเข้าไปภายในห้องนอนในช่วงดึกขณะที่พ่อแม่ออกไปกรีดยาง แล้วล่วงละเมิดทางเพศอย่างรุนแรง ทำให้หนูน้อยมีเลือดออกในช่องท้อง และเกิดหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน จนเสียชีวิตลงในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลตรังนั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครอบครัวของ นายศรัณย์รัชต์ หรือเฟิร์ส 1 ในผู้ที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีดังกล่าว ประกอบด้วย นายรชต ซู่สั้น บิดา นางเพียงใจ ซู่สั้น มารดา และ น.ส.ศศินภา กำเนิด ภรรยา พร้อมลูกอีก 2 คน เดินทางเพื่อขอความเป็นธรรมต่อผู้สื่อข่าว โดยอ้างว่า ลูกชาย และสามีของตนถูกใส่ร้ายเกรงว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะจับแพะ
โดย นายรชต ซู่สั้น พ่อของผู้ต้องหา กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ตนเชื่อมั่นว่าลูกชายของตนบริสุทธิ์ เพราะในคืนเกิดเหตุเขานอนอยู่ที่บ้านพักพร้อมกับลูกเมีย และแม่ และไม่ได้ออกไปไหน จนวันรุ่งขึ้นก็มีตำรวจมาเชิญตัวไปในคดีจับพืชกระท่อมซึ่งเป็นคดีเก่า แต่จู่ๆ เรื่องกลับตาลปัตร ลูกชายตนกลายเป็นผู้ต้องหาฆ่าข่มขืนเด็กวัย 8 ขวบแทน ซึ่งตน และครอบครัวถึงกับช็อก และตกใจมากว่ามันจะเป็นไปได้อย่างไร ลูกชายตนถูกใส่ร้ายแน่ๆ ตนยอมรับว่า ความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูกนั้นมหาศาลวัดค่าไม่ได้ แต่ตนก็จะไม่เข้าข้างคนผิดหากลูกตนเป็นคนทำจริงๆ และสิ่งที่ครอบครัวหวังมากที่สุดในตอนนี้คือ อยากให้ผลดีเอ็นเอออกมาให้เร็วที่สุด เพื่อจะได้พิสูจน์กันว่าใครกันแน่คือฆาตกรตัวจริง ซึ่งโดยปกติผู้ต้องหาทำงานเป็นพนักงานโรงแรมอยู่ที่ จ.กระบี่ แต่ช่วงนี้เป็นโลว์ซีซัน ก็กลับมาอยู่บ้านกับครอบครัวที่ จ.ตรัง และไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
อย่างไรก็ตาม หากผลยังไม่ออกมาวอนขอทุกฝ่ายอย่าเพิ่งประณามลูกชาย และครอบครัวตนกล่าวหาว่าเป็นคนผิด และเชื่อว่าความยุติธรรมมีจริง ตลอดช่วงที่ผ่านมา มีข่าวออกทุกวันต่างกล่าวหาว่า ลูกชายตนเป็นคนทำผิด ทั้งนี้ หลักฐานยังไม่ออกมาชัดเจน แม้ว่าเด็กที่เสียชีวิตจะระบุว่า ลูกชายตนเป็นคนทำ และใครจะยืนยันได้ว่าเด็กพูดชื่อลูกชายตนก่อนตายจริงๆ ตนเชื่อว่าเรื่องนี้ต้องมีความไม่ชอบมาพากล ตนอยากจะขอความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย ขอให้รอผลการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ก่อนเชื่อว่าไม่นานเกินรอ และขอให้เห็นใจครอบครัวตนบ้าง อย่าเพิ่งเชื่อไปตามข่าว เพราะความจริงก็คือความจริง