ตรัง - อดีตเชฟหนุ่มใหญ่ชาวตรังเบื่อชีวิตลูกจ้าง หันทำขนมจากขนมพื้นบ้านของไทย ด้วยสูตรที่ดัดแปลงผสมกับผลไม้ตามฤดูกาล ซึ่งนับเป็นเจ้าแรก และเจ้าเดียวในประเทศไทย จนขายดิบขายดี สามารถเลี้ยงดูตนเอง และครอบครัวได้อย่างไม่เดือดร้อน
วันนี้ (10 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหน้าวิทยาลัยเทคนิคตรัง ริมถนนตรัง-ปะเหลียน ในเขตเทศบาลตำบลโคกหล่อ อ.เมืองตรัง นายประธง ท่าจีน หนุ่มวัย 35 ปี ชาวตรังโดยกำเนิด ได้เกิดเบื่อชีวิตลูกจ้างแล้วหันมาทำขนมจากซึ่งเป็นขนมพื้นบ้านไทย แต่นำสูตรมาดัดแปลงผสมกับผลไม้ตามฤดูกาล จนนับเป็นเจ้าแรก และเจ้าเดียวในประเทศไทย จนได้รับการตอบรับจากลูกค้า ขายดิบขายดี สร้างรายได้เลี้ยงปากท้อง เพื่อต่อสู้กับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ และใช้ชีวิตอยู่แบบสบายๆ
นายประธง เล่าว่า ตนเองเรียนจบจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง จากนั้นก็ท่องเที่ยวไปเรื่อยๆ จนมาถึงสถานบันเทิงแห่งหนึ่งก็พบว่า มีรสชาติอาหารดีมากก็เลยอยากรู้จักแม่ครัว พอได้รู้จักกันก็คุยกันถูกคอ และเขาจึงสอนวิธีทำอาหารให้ ตอนนั้นก็รู้สึกว่าสนุกดี จากที่ไม่เคยรู้ตัวมาก่อนว่าตนเองชอบทำอาหาร กระทั่งต่อมา ก็ได้ไปทำงานเป็นเชฟในโรงแรมแห่งหนึ่ง ก่อนถูกส่งไปอบรมหลักสูตร และเทคนิคต่างๆ จนสามารถทำอาหารได้ทุกชนิด
อย่างไรก็ตาม ต่อมา ก็ได้ตัดสินในลาออกเนื่องจากรู้สึกเบื่อสังคมลูกจ้างที่ทำงานจำเจทุกวัน แต่เนื่องจากตนเองมีความชำนาญด้านการทำอาหารอยู่แล้ว ดังนั้น ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา จึงลองคิดค้นสูตรแปลกๆ ไปเรื่อยๆ กระทั่งได้มีโอกาสไปร่วมงานศพใกล้บ้าน และสังเกตเห็นขนมจาก ซึ่งเป็นขนมโบราณพื้นบ้านของท้องถิ่น จึงให้ความสนใจนำมาดัดแปลงเพิ่มเติม โดยการนำผลไม้ตามฤดูกาลมาผสมกับมะพร้าวอ่อน ทำให้รสชาติออกมาอร่อยมากยิ่งขึ้นไปกว่าแบบเดิมๆ
โดยแรกๆ ตนเองจะทำขนมจากเฉพาะตามใบสั่งของลูกค้า หรือตามงานต่างๆ เช่น งานศพ งานแต่งงาน งานบุญ ฯลฯ เท่านั้น แต่กลับมีกระแสการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี และต่างพากันสอบถามว่า เปิดร้านขายที่ไหน จนในที่สุดตนก็คิดว่าเดินมาถูกทางแล้วจึงได้เปิดร้านขายขนมจากที่บริเวณหน้าวิทยาลัยเทคนิคตรัง เมื่อประมาณ 1 เดือนเศษที่ผ่านมา ปรากฏว่า ขายดีทุกวัน ในส่วนของลูกค้ามีทั้งขาประจำ และขาจร จนขณะนี้ตนสามารถมีเงินเลี้ยงดูตนเอง และครอบครัวได้อย่างไม่เดือดร้อน และดีกว่าชีวิตลูกจ้างเยอะ
สำหรับขนมจากของตนเองนั้นมีส่วนผสมหลายแบบ ทั้งขนุน เผือก ข้าวโพด ฟักทอง และข้าวเหนียวดำ เพื่อให้เป็นทางเลือกของลูกค้า เพราะแต่ละแบบก็จะมีรสชาติที่แตกต่างกัน แล้วแต่คนชอบ โดยจะเปิดร้านขายขนมจากทุกวันจันทร์-เสาร์ ตั้งแต่เวลา 10.00-15.00 น. และตั้งชื่อว่า “ร้านขนมจาก จากใจ” ทั้งนี้ นอกจากตนเองจะเน้นคุณภาพของขนมไทยแล้ว ลูกค้าที่กินก็จะได้ประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย ที่สำคัญก็คือ เป็นการอนุรักษ์ขนมพื้นบ้านที่นับวันจะสูญหาย และถูกลดความสำคัญลงไปมากในปัจจุบัน
