นราธิวาส - วิกฤตแม่น้ำสุไหงโก-ลก ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ของแม่น้ำสายหลักได้แห้งขอด ปชช.เห็นโอกาสพลิกเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ผู้ทราบข่าวต่างพาบุตรหลานมาเล่นน้ำคลายร้อน
วันนี้ (29 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากสภาวะของแม่น้ำสุไหงโก-ลก ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ของแม่น้ำสายหลักได้แห้งขอดเป็นระยะเวลานานกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา ได้เริ่มส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชน โดยเฉพาะเรื่องน้ำใช้สำหรับอุปโภคบริโภค โดยที่ในเวลาอันใกล้นี้ การประปาส่วนภูมิภาค อ.สุไหงโก-ลก อาจจะต้องมีการจ่ายน้ำให้แก่ประชาชนเป็นห้วงเวลา เพื่อกักเก็บน้ำไว้เป็นต้นทุนในการจ่ายแจกให้แก่ประชาชนไว้ใช้ในฤดูแล้งนี้ ถึงแม้ นายปรีชา นวลน้อย นายอำเภอสุไหงโก-ลก ได้ทำเรื่องขอสนับสนุนในการทำฝนเทียม
ถึงอย่างไรก็ตาม แม้สภาวะแม่น้ำสุไหงโก-ลก จะแห้งขอดลง แต่ในมุมกลับก็มีผลดีอีกแง่มุมหนึ่ง ที่ประชาชนทั้งชาวไทย และชาวมาเลเซียได้อาศัยจังหวะที่แม่น้ำสุไหงโก-ลก แห้งขอด พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ โดยเฉพาะในช่วงอากาศร้อนอบอ้าวนี้ โดยสถานที่ดังกล่าวนี้ในอดีตเป็นท่าเรือข้ามฟากชุมชนท่าบือเร็ง ตั้งอยู่เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ที่ปัจจุบัน อยู่ในสภาพเนินทรายขาวสะอาดผุดขึ้นที่บริเวณริม 2 ฟากฝั่งของแม่น้ำสุไหงโก-ลก โดยมีปริมาณน้ำของแม่น้ำสุไหงโก-ลก ที่ในภาพรวมลึกโดยประมาณ 30-40 ซม. ไหลผ่าน และอยู่ในระดับที่ไม่เป็นอันตรายต่อเด็ก และเยาวชน จึงทำให้ประชาชนทั้งชาวไทย และชาวมาเลเซียที่ทราบข่าวได้พาบุตรหลาน และสมาชิกในครัวเรือนเดินทางมาเล่นน้ำในช่วงอากาศร้อนอบอ้าวอย่างไม่ขาดสาย
นอกจากนี้แล้ว ในอีกแง่มุมหนึ่งจากสภาวะแม่น้ำสุไหงโก-ลก ที่แห้งขอดในครั้งนี้ ยังทำให้ประชาชนอีกกลุ่มหนึ่งผันตัวเองมาเป็นพ่อค้าแม่ค้า ด้วยการนำไอศกรีม ของขบเคี้ยว ลูกชิ้น น้ำหวาน มาตั้งวางจำหน่ายให้แก่ประชาชนที่ได้เดินทางมาท่องเที่ยวในแต่ละวัน ประมาณ 700-800 คน ได้ซื้อหาไปบริโภค รวมทั้งได้มีการนำห่วงยางมาตั้งเพื่อให้เช่า จากการสอบถามพบว่า กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าในแต่ละวันจะจำหน่ายอาหารได้โดยภาพรวมต่อรายต่อวัน ประมาณ 500-2,000 บาทเลยทีเดียว