กระบี่- อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา หมู่เกาะพีพี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประชาสัมพันธ์ถึงอันตรายจากแมงกะพรุนที่มีอยู่ในทะเลกระบี่ พร้อมขอความร่วมมือผู้ประกอบการเรือนำเที่ยว เรือดำน้ำลึกต้องมีน้ำส้มสายชูเก็บไว้ในเรือเพื่อได้ล้างพิษแมงกะพรุนกรณีนักท่องเที่ยวโดนพิษ ส่วนเด็กชาย 12 ขวบ ที่ถูกพิษแมงกะพรุนแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านแล้ว
วันนี้ (27 เม.ย.) เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี ตร.น้ำกระบี่ เจ้าท่ากระบี่ ร่วมกันออกประชาสัมพันธ์ตามแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล ถึงอันตรายจากแมงกะพรุนให้นักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการเรือทราบ และช่วยกันดูแลนักท่องเที่ยว หลังจาก ด.ช.สุทธิเทศ ทึกขุนทด อายุ 12 ปี อยู่บ้านเลขที่ 447 ม.4 ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ ได้ถูกพิษแมงกะพรุนได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณทะเลแหวก เมื่อวันที่ 25 เมษายน 25459 เบื้องต้น แพทย์ระบุถูกพิษแมงกะพรุนกล่อง ล่าสุด อาการปลอดภัยแพทย์อนุญาตให้กลับไปพักฟื้นที่บ้านแล้ว
นายศรายุทธ ตันเถียร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา หมู่เกาะพีพี เปิดเผยว่า ได้มีหนังสือขอความร่วมมือจัดหาน้ำส้มสายชูเก็บไว้บนเรือ ทั้งในส่วนผู้ประกอบการเรือนำเที่ยว ผู้ประกอบการเรือดำน้ำลึก ทั้งนี้ เนื่องจากระยะเวลาที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำทะเลบริเวณแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เช่น เกาะพีพีดอน เกาะพีพีเล (อ่าวมาหยา) ทะเลแหวก เกาะปอดะ ไร่เลย์ และอื่นๆ ได้สัมผัสกับแมงกะพรุน ทำให้มีอาการเจ็บปวดบริเวณที่สัมผัส เพื่อบรรเทาอาการเบื้องต้นต้องนำน้ำส้มสายชูมาล้างพิษของมะแมงกะพรุนก่อน
ทางอุทยานฯ จึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการจัดเตรียมน้ำส้มสายชูไว้ในเรือทุกลำในปริมาณตามสมควร เพื่อไว้ใช้ในกรณีนักท่องเที่ยวสัมผัสกับแมงกะพรุนก่อนที่จะถึงมือแพทย์ ซึ่งจะสามารถช่วยยับยั้งพิษได้ เนื่องจากแมงกะพรุนบางชนิดมีพิษร้ายแรง นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้นำเรือออกติดตามค้นหาแมงกะพรุนกล่องในทะเลกระบี่ เพื่อเก็บไว้เป็นตัวอย่างในการตรวจสอบถึงพิษของแมงกะพรุนต่อไป