ยะลา - เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง อ.เบตง จ.ยะลา คุมเข้มเมืองเศรษฐกิจชายแดนในวันรำลึกครบ 12 ปี เหตุการณ์มัสยิดกรือเซะ หวั่นโดนลอบคาร์บอมบ์ หลังพบรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ถูกขโมยไปแล้วกว่า 13 คัน
วันนี้ (27 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกประกาศเตือน พร้อมสั่งเพิ่มการเฝ้าระวังย่านการค้าการท่องเที่ยว ทั้งในพื้นที่ จ.ปัตตานี จ.สงขลา และ จ.ยะลา เพื่อป้องกันเหตุความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงครบรอบ 12 ปี เหตุการณ์มัสยิดกรือเซะ หลังได้รับรายงานว่า มีรถยนต์ถูกขโมยในพื้นที่ จ.ยะลา ปัตตานี และพื้นที่ จ.นราธิวาส จำนวนกว่า 13 คัน
ขณะที่หน่วยข่าวกรองพบแผนกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบจ้องป่วนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ช่วงครบรอบ 12 ปี เหตุการณ์มัสยิดกรือเซะ โดยได้นำระเบิดชนิดแสวงเครื่องไปซ่อนไว้ในบ้านแนวร่วมเพื่อรอโอกาสนำไปก่อเหตุในชุมชนเมือง และย่านเศรษฐกิจในพื้นที่เป้าหมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ปรับแผนการดูแลความปลอดภัยอยู่ในขั้นสูงสุด พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากประชาชนช่วยสอดส่องดูแลเพื่อยับยั้งไม่ให้เกิดเหตุความรุนแรงขึ้นในพื้นที่
นายดำรงค์ ดีสกุล นายอำเภอเบตง กล่าวว่า การปล่อยแถวกองกำลัง 3 ฝ่ายครั้งนี้ สืบเนื่องจากช่วงที่ผ่านมา จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งการลอบวางระเบิด และลอบยิงเจ้าหน้าที่ ประชาชน ประกอบกับหน่วยงานด้านความมั่นคงยังได้รับการแจ้งเตือนกลุ่มคนร้ายมีความเคลื่อนไหวพยายามเข้าไปก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่เป้าหมาย
โดยในช่วงเวลาดังกล่าวของทุกปี กลุ่มแนวร่วมผู้ก่อความไม่สงบจะทำการปลุกระดมให้สมาชิกที่ซ่อนตัวอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ออกมาตระเวนก่อเหตุ เช่น เผายางรถยนต์ ศาลาที่พักริมทาง เสาสัญญาณโทรศัพท์ เสาไฟฟ้า เพื่อแสดงเชิงวันสัญลักษณ์ และแสดงศักยภาพของกลุ่มเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความหวาดกลัว
นอกจากนี้ ยังได้กำชับเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย ให้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย พร้อมเน้นปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวัง เฝ้าตรวจยานพาหนะ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ และบุคลต้องสงสัย ควบคู่กับการลาดตระเวนเส้นทางทั้งสายหลัก 410 (ยะลา-เบตง) และสายรอง สกัดกั้นไม่ให้กลุ่มคนร้ายก่อเหตุในพื้นที่ได้
โดยมีการสลับสับเปลี่ยนกำลังตลอด 24 ชั่วโมง และได้ขอความร่วมมือประชาชนให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตาดูแลบริเวณโดยรอบร้านค้า และบ้านเรือน หากพบสิ่งผิดปกติให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่อย่างเร่งด่วน เพื่อเข้ามาตรวจสอบก่อนจะเกิดเหตุร้ายขึ้น อย่างไรก็ตาม การป้องกันจะได้ผลมากน้อยเพียงใดส่วนหนึ่งต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนในการแจ้งเบาะแสต่างๆ แก่เจ้าหน้าที่ด้วย