ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - จนท.ได้เบาะแส 2 คนร้ายก่อเหตุวางระเบิดสถานีรถไฟจะนะแล้ว ส่วนรถจักรยานยนต์ประกอบระเบิดสวมป้ายทะเบียนปลอม ขณะที่ในช่วงดึกได้เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเพลิงภายในร้านขายของชำใน อ.จะนะซ้ำ สินค้าภายในร้านเสียหายเล็กน้อย
วันนี้ (12 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดรถจักรยานยนต์บอมบ์ที่หน้าสถานีรถไฟจะนะ จ.สงขลา เมื่อช่วงเย็นวานนี้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บ 15 คน ล่าสุด ในวันนี้ ตำรวจ สภ.จะนะ ชุดสืบสวนของตำรวจภูธรภาค 9 และชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา ยังคงเร่งแกะรอยหาเบาะแสของคนร้ายจากกล้องวงจรปิดของสถานีรถไฟจะนะ ซึ่งบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้ทั้งหมด
โดยจากการตรวจสอบพบเบาะแสคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว 2 คน เป็นคนขับจักรยานยนต์ประกอบระเบิดมาวางไว้ ก่อนที่จะเดินไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายอีกคนจอดรออยู่ริมถนนใกล้ๆ กัน ซึ่งลักษณะคนร้ายทั้ง 2 คน พรางตัวโดยสวมใส่ฮิญาบ และชุดของผู้หญิงมุสลิม ก่อนที่จะขับรถออกไป และน่าจะมีคนร้ายอีกคนซึ่งทำหน้าที่จุดชนวนระเบิดซุ่มรออยู่ใกล้ๆ กัน
แต่จากการขยายผลตรวจสอบป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีดำ ทะเบียน กษจ 675 ปัตตานี ที่ใช้ประกอบระเบิด พบว่า เป็นป้ายทะเบียนปลอม เนื่องจากไปตรงกับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ สีดำ อีกคัน ซึ่งมีทั้งรถ และผู้ครอบครองชัดเจนอยู่ที่ จ.ปัตตานี จึงเชื่อว่าคนร้ายทำป้ายทะเบียนปลอมขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงดึกของคืนที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุก่อความไม่สงบในพื้นที่ อ.จะนะขึ้นอีกครั้ง เมื่อคนร้ายไม่ทราบจำนวนนำระเบิดเพลิงไปวางไว้ภายในร้านเกณฑ์ดีช็อป ซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ ของ นายชม เพชรรัตน์ ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 91/6 ม.8 ต.คู อ.จะนะ เบื้องต้น สินค้าบนชั้นวางของภายในร้านเสียหายเล็กน้อย จากการตรวจสอบพบหลักฐานเป็นโทรศัพท์มือถือต่อกับแบตเตอรี่เป็นตัวจุดชนวน ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลว่าเป็นเรื่องส่วนตัว หรือการสร้างสถานการณ์
สำหรับในเส้นทางใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่สถานีชุมทางหาดใหญ่ จนถึงสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก ยังคงเดินรถตามปกติทุกขบวน แม้จะเกิดระเบิดขึ้นที่หน้าสถานีรถไฟจะนะเมื่อวานนี้ก็ตาม
นายสมาน รักษาวงศ์ สารวัตรงานเดินรถแขวงหาดใหญ่ เปิดเผยว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อระบบสื่อสาร และรางแต่อย่างใด มีเพียงตัวสถานีที่ได้รับความเสียหายเท่านั้น รถไฟทุกขบวนยังให้บริการตามปกติ โดยในช่วงเช้าของวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจะเข้าเคลียร์พื้นที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าปลอดภัยไม่มีระเบิดซ้ำ