ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ สาขาภาคใต้ เขต 2 บูรณาการร่วมกับตำรวจน้ำภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดคนประจำเรือโดยสารท่องเที่ยว ดูแลความปลอดภัยทางทะเลช่วงสงกรานต์ ในเบื้องต้น พบเพียง 4 ราย
เมื่อเวลา 15.30 น. วันนี้ (11 เม.ย.) ที่บริเวณท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต นายสันติ ป่าหวาย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต ในฐานะนายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ สาขาภาคใต้ เขต 2 พร้อมด้วย พ.ต.ท.ปัญญา ชัยชนะ สว.ส.รน.3 กก.8 บก.รน. พ.ต.ต.อุรัมพร ขุนเดชสัมฤทธิ์ สว.ส.ทท.2 กก.5 บก.ทท. เจ้าหน้าที่เจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาภูเก็ต ปกครองจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สุ่มตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดคนประจำเรือโดยสารท่องเที่ยว เพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางน้ำ และสร้างความมั่นใจ และเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2559
นายสันติ ป่าหวาย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต ในฐานะนายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ สาขาภาคใต้ เขต 2 กล่าวว่า สืบเนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต มีนโยบายในการคุมเข้มเรือท่องเที่ยวในการออกจากฝั่งต้องให้นักท่องเที่ยวสวมเสื้อชูชีพทุกครั้ง นอกจากนั้น ได้มีการสุ่มตรวจปัสสาวะคนขับเรือ และคนประจำเรือ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวในการโดยสารเรือท่องเที่ยว อีกทั้งมีการตรวจเอกสารประจำเรือ ความพร้อมของอุปกรณ์ช่วยชีวิต เช่น เสื้อชูชีพ และการไม่บรรทุกผู้โดยสารเกินกว่าที่กำหนดไว้ ตามแผนระดมปราบปราม และรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2559
นายสันติ กล่าวต่ออีกว่า ได้สั่งการให้บริษัทนำเที่ยวจีน รวมถึงไกด์ให้ดูแลนักท่องเที่ยวเข้มงวดเรื่องแนะนำการปฏิบัติตัวของนักท่องเที่ยว เช่น การรับประทานอาหาร การเข้าไปท่องเที่ยวสถานที่สำคัญต่าง ๆ การเล่นน้ำสงกรานต์ต้องให้อยู่ในกรอบที่ไม่สร้างความเดือดร้อน เสื่อมเสีย หรือการปฏิบัติตัวในทุกๆ ด้านของนักท่องเที่ยว หากพบมีผู้ร้องเรียน หรือเจ้าหน้าที่ตรวจพบ และมีคนถ่ายภาพการประพฤติตัวไม่เหมาะสมของนักท่องเที่ยวเผยแพร่ตามโลกโซเชียล ทางบริษัทนำเที่ยว และไกด์ต้องรับผิดชอบโดยตรง เพราะถือว่าไม่ดูแลใส่ใจนักท่องเที่ยว ซึ่งหากผิดตามหลักกฎหมายก็จะดำเนินไปตามหลักของกฎหมาย แต่หากผิดลักษณะคาบเกี่ยว เช่น การทำตัวผิดธรรมเนียมประเพณีไทยของนักท่องเที่ยว บริษัทท่องเที่ยวนั้นจะต้องถูกเรียกมาตักเตือน พักใบอนุญาต หรือหากร้ายแรงเกินไปก็จะมีการสั่งปิดบริษัทไป ซึ่งมาตรการเหล่านี้เป็นการป้องปราม และป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ไม่เหมาะสมเกิดขึ้นในพื้นที่ เพื่อเป็นการรักษาภาพลักษณ์ของจังหวัดภูเก็ต
อย่างไรก็ตาม ในการปฏิบัติสุ่มตรวจคนประจำเรือ จำนวน 30 คน ปรากฏว่า พบสารเสพติดในปัสสาวะลูกเรือ จำนวน 4 คน นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง ดำเนินการต่อไป โดยยังไม่ได้ตั้งข้อกล่าวหา เนื่องจากเป็นเพียงผู้ต้องสงสัยเสพสารเสพติดให้โทษเท่านั้น ซึ่งขั้นตอนต่อไปอยู่ที่พนักงานสอบสวนจะส่งปัสสาวะไปตรวจอีกครั้งถึงจะตั้งข้อหาต่อไป