ปัตตานี - รักษาราชการแทนผู้ว่าฯ ปัตตานี เยี่ยมชมการดำเนินงานของศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ พบผู้ประกอบการนำแรงงานต่างด้าวมารายงานตัวเพื่อขอรับบัตรใหม่ และต่อใบอนุญาตอย่างไม่ขาดสาย
วันนี้ (6 เม.ย.) ที่ศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ (ONE STOP SERVICE) บริเวณกองร้อยอาสาสมัครรักษาดินแดน จ.ปัตตานี ที่ 1 นายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ รักษาราชการแทนผู้ว่าฯ จ.ปัตตานี พร้อมด้วยรองผู้ว่าฯ นายอำเภอเมืองปัตตานี และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าเยี่ยมชมการดำเนินงานของศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ (ONE STOP SERVICE) ซึ่งมีผู้ประกอบการนำแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ มารายงานตัวเพื่อขอรับบัตรใหม่ และต่อใบอนุญาตอย่างไม่ขาดสาย
ตามที่คณะรัฐมนตรี ได้มีมติเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2559 เห็นชอบการดำเนินการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว หลังวันที่ 31 มีนาคม 2559 โดยการผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า ลาว และกัมพูชา อยู่ในราชอาณาจักร เพื่อดำเนินการตรวจสุขภาพ ประกันสุขภาพ รายงานตัวเพื่อจัดทำทะเบียนประวัติ และขออนุญาตทำงานในช่วงระยะเวลา 120 วัน ระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2559-วันที่ 29 กรกฎาคม 2559 และแรงงานที่ไปรายงานตัวจะได้รับอนุญาตทำงานตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน-วันที่ 31 มีนาคม 2561 เท่ากันทุกคน
โดยแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า ลาว และกัมพูชา ที่เคยขึ้นทะเบียนเดิม และมีใบอนุญาตทำงานแล้ว แต่ใบอนุญาตทำงานหมดอายุให้ไปรายงานตัวเพื่อขออนุญาตทำงานที่ศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) ในช่วง 1 เมษายน-29 กรกฎาคม 2559 สำหรับขั้นตอนการดำเนินการ แรงงานต่างด้าวทุกคนต้องตรวจสุขภาพ ทำประกันสุขภาพ ณ โรงพยาบาลปัตตานี โดยมีค่าใช้จ่ายตรวจสุขภาพ 500 บาท ค่าประกันสุขภาพ 3,200 บาท จากนั้นไปชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงานผ่านทางเคาน์เตอร์เซอร์วิส หรือที่สำนักงานการจัดหางาน จ.ปัตตานี ในวัน และเวลาราชการ โดยนำใบรับรองแพทย์ และบัตรสีชมพู หรือเอกสารที่ประเทศต้นทางออกให้นำไปชำระเงินค่าบริการ 1,910 บาท ต่อแรงงานต่างด้าว 1 คน
สำหรับกรณีที่ผู้ประกอบการแจ้งว่า ไม่ได้รับความสะดวกในบางขั้นตอน เช่น การตรวจสุขภาพที่ต้องเดินทางไปตรวจที่โรงพยาบาลปัตตานีนั้น รักษาราชการแทนผู้ว่าฯ ปัตตานี ได้ตรวจสอบแล้ว เนื่องจากการตรวจสุขภาพต้องมีการเอกซเรย์ และรถเอกซเรย์เคลื่อนที่อยู่ประจำที่กรุงเทพฯ ไม่สามารถมาได้ จึงจำเป็นต้องไปที่โรงพยาบาล แต่ทางโรงพยาบาลก็ได้จัดห้องเอกซเรย์ให้เป็นพิเศษ ซึ่งสามารถรับได้ถึง 3-500 คนต่อวัน ส่วนปัญหาการเดินทางนั้นจะได้ประสานหน่วยที่เกี่ยวข้อง ถ้าจำเป็นอาจจะมีการจัดรถเพื่อให้บริการรับ-ส่งระหว่างโรงพยาบาลปัตตานี และศูนย์บริการฯ