ยะลา - กรณีพลทหารถูกทำโทษจนเสียชีวิต พบเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากการทะเลาะวิวาท ขณะที่ญาติพอใจการให้ความช่วยเหลือ แต่ขอให้มีการดำเนินคดีต่อผู้ที่กระทำความผิดอย่างถึงที่สุด
วันนี้ (4 เม.ย.) จากกรณีที่ พลทหารทรงธรรม หมุดหมัด อายุ 23 ปี พลทหารสังกัด ร.152 พัน 1 ค่ายพยัคฆ์ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ถูกทำโทษโดยการทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาพยาบาลที่ห้องไอซียูโรงพยาบาลศูนย์ยะลา และได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2559 สร้างความเสียใจให้แก่ผู้เป็นแม่ และญาติที่มาเฝ้ารอดูอาการ
โดยล่าสุด นางจิตรา ช่อมณี มารดาของพลทหารทรงธรรม หมุดหมัด ซึ่งยังเฝ้ารอรับร่างของลูกชายที่หน้าห้องไอซียูโรงพยาบาลศูนย์ยะลา ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความในใจต่อผู้สื่อข่าวว่า เสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก เนื่องจาก พลทหารทรงธรรม เป็นบุตรชายเพียงคนเดียวเท่านั้น ตอนนี้ตนเองได้เฝ้ารอแพทย์มาชันสูตรอีกครั้ง ซึ่งแพทย์ก็ได้บอกว่า ลูกชายของตนเองนั้นเสียชีวิตแล้ว แต่อาการยังคงอยู่ได้เพราะเครื่องช่วยหายใจ ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือ และการรับผิดชอบจากหน่วยงานต้นสังกัดนั้น ทาง พ.ท.สมคิด คงแข็ง ผู้บังคับการกองพัน ก็ให้การดูแลอย่างดี และเต็มที่ในทุกด้าน พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่ทหารมาอำนวยความสะดวกดูแลสภาพจิตใจ ก็พอใจในส่วนนี้เป็นอย่างมาก ในส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นตนเองอยากให้มีการนำตัวผู้ร่วมกระทำความผิดมาลงโทษอย่างถึงที่สุด
ทางด้าน นางโสภา นวลละหงส์ ผู้เป็นป้า กล่าวว่า ทางญาติเองก็ไม่อยากให้เกิดความเสียหายต่อฝ่ายใด เนื่องจากทางหน่วยงานต้นสังกัดก็ออกมารับผิดชอบ และยืนยันที่จะดูแลความครอบครัวเป็นอย่างดี แต่ที่ต้องการให้ออกสื่อก็เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ต่อบุคคลใดอีกต่อไป และขอวิงวอนที่จะให้สื่อออกไปเพื่อขอความเป็นธรรม และความยุติธรรมให้แก่ผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้
ขณะเดียวกัน มีข้อมูลของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจาก พลทหารฉัตรภิศุทธิ์ ชุมพันธ์ ซึ่งเป็นเพื่อนพลทหารด้วยกันที่ถูกทำร้ายร่างกาย และอยู่ในเหตุการณ์ขณะนั้นว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อค่ำของวันที่ 1 เม.ย.59 โดยมี นายสิบทหารคนหนึ่งที่เข้าไปภายในห้องพักของ พลทหารทรงธรรม และพลทหารฉัตรภิศุทธิ์ จากนั้น พลทหารทรงธรรม พบว่า มีเงินจำนวนหนึ่งหายไปจากภายในห้อง จึงได้ร่วมกับ พลทหารฉัตรภิศุทธิ์ ขอตรวจค้นภายในตัวของนายสิบทหารนายนั้น และเกิดการชกต่อยกันก่อนที่จะมีทหารคนอื่นมาห้าม และแยกย้ายกันไป
ต่อมา เวลาประมาณ 20.00 น. พลทหารทรงธรรม หมัดหมุด และพลทหารฉัตรภิศุทธิ์ ชุมพันธ์ ได้ถูกนำตัวเข้าไปภายในกองพัน และในเวลา 21.00 น. ได้มีนายทหารที่ดูแลอยู่ในขณะนั้นเรียกทหารในกองร้อยมารวมตัวกัน และรุมทำร้ายร่างกาย ทั้งการเตะต่อย กระทืบด้วยเท้า ใช้ของแข็งตี ใช้เทียนลน ามร่างกาย ใช้ตามน้ำตาเทียนหยดใส่ตามร่างกาย ตั้งแต่ช่วงเวลา 21.00- 04.00 น.ของวันที่ 2 เม.ย.59 โดยระหว่างที่ถูกรุมทำร้ายร่างกายนั้น พลทหารทรงธรรม หมุดหมัด ได้เสียหลักศีรษะฟาดกับพื้นที่จนแน่นิ่งสลบไป
จนรุ่งเช้า พลทหารฉัตรภิศุทธิ์ ตื่นขึ้นมาก็พบว่า พลทหารทรงธรรม ไม่หายใจแล้ว จึงได้ตะโกนบอกนายทหารที่อยู่บริเวณนั้น ก่อนที่จะมีทหารช่วยกันปั๊มหัวใจให้กับ พลทหารทรงธรรม ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะช่วยกันนำตัว พลทหารทรงธรรม ส่งมายังโรงพยาบาลศูนย์ยะลา โดยที่ พลทหารฉัตรภิศุทธิ์ ก็มีอาการสาหัสจากการถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมถึงสภาพร่างกายของพลทหารทรงธรรม ที่มีบาดแผลจากการถูกทำร้ายเต็มไปทั้งตัว ทั้งที่บริเวณลำตัว มีรอยฟกช้ำบริเวณแขนทั้งสองข้าง และแผ่นหลังที่มีร่องรอยถูกทำร้ายจนอาการสาหัส โดยญาติต้องการให้แพทย์ผู้ชันสูตรได้ลงบันทึกข้อเท็จจริงภายในใบรายงานผลการตรวจร่างกายตามความเป็นจริงว่าเกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง เพื่อให้ความเป็นธรรมต่อครอบครัว
