ศูนย์ข่าวภูเก็ต - รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่เร่งพิสูจน์ทางสาธารณะลงหาดแหลมหงา จ.ภูเก็ต สร้างโดยทางหลวงชนบท ตัดผ่านที่ดินของเอกชนได้อย่างไร ขณะที่ผู้แทนเจ้าของที่ดินยันทางที่ปิดกั้นอยู่ในที่ดินส่วนบุคคล
เมื่อเวลา 17.00 น. วันนี้ (29 มี.ค.) นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายประพันธ์ ขันพระแสง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต เรือเอกสมภพ คำคณา หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ชุดประสานงานประจำพื้นที่ทหารเรือที่ 13 ทัพเรือภาคที่ 3 เจ้าหน้าที่ทหารเรืออีกจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่หมู่ 1 ต.รัษฎา อ.เมือง ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงหลังมีการร้องเรียนกรณีเอกชนสร้างรั้วลวดหนามปิดกั้นเส้นทางสาธารณะ และปักป้ายเตือน “ที่ดินและถนนส่วนบุคคล-ห้ามเข้า อันตราย!” ทำให้ชาวบ้านในชุมชนได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถใช้เส้นทางดังกล่าวเพื่อเดินทางลงไปยังบริเวณชายหาดแหลมหงา
ทั้งนี้ เท่าที่มีการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า ถนนดังกล่าวสร้างมาประมาณ 15 ปีแล้ว โดยทางหลวงชนบทเป็นผู้สร้าง หลังจากนั้น ได้โอนให้เทศบาลตำบลรัษฎา ดูแล ซึ่งถนนสร้างยาวไปจนถึงชายหาด ตัดผ่านที่ดินเอกชน ซึ่งถนนที่ปิดไปถึงชายหาดนั้นมีความยาวประมาณ 600 เมตร ถูกปิดหลังจากมีการรังวัดรวมแปลงที่ดินเมื่อปี พ.ศ.2554 และในบันทึกการรังวัดรวมแปลงในปีดังกล่าว ระบุว่า มีที่ดินติดทางสาธารณะแต่ไม่รุกล้ำ ซึ่งไปสิ้นสุดเส้นทางของเอกชนที่มีการสร้างรั้วลวดหนามปิดกั้นเพื่อไม่ให้ชาวบ้านผ่านเข้าไปยังชายหาดสาธารณะหาดแหลมหงา
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้แทนเจ้าของที่ดินระบุว่า เส้นทางที่มีการปิดกั้นเป็นเส้นทางซึ่งต่อเนื่องจากทางสาธารณประโยชน์ ในส่วนที่ปิดกั้นเป็นที่ดินส่วนบุคคล ทางเจ้าของที่ดินไม่ได้ยกให้เป็นทางสาธารณะแต่อย่างใด
ขณะที่รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในส่วนของถนนโดยสภาพแล้วเป็นทางสาธารณะ มีการก่อสร้างจดชายหาดแหลมหงา ซึ่งตัดผ่านในที่ของเอกชน จะต้องมีการตรวจสอบเท็จจริงจากทางหลวงชนบทอีกครั้งถึงที่มาที่ไปของถนนเส้นนี้ ว่า ก่อสร้างเข้าไปในที่ของเอกชนได้อย่างไร ส่วนประเด็นการปิดถนนถ้ามองตามเอกสารสิทธิที่ดินเอกชนมีสิทธิปิดได้เพราะเป็นที่ส่วนบุคคล แต่อย่างไรก็ตาม ตนได้ขอให้มีการเปิดเส้นทางให้ชาวบ้านได้ใช้ร่วมกันเป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีการพิสูจน์ได้ว่าเป็นทางสาธารณะหรือไม่
เมื่อเวลา 17.00 น. วันนี้ (29 มี.ค.) นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายประพันธ์ ขันพระแสง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต เรือเอกสมภพ คำคณา หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ชุดประสานงานประจำพื้นที่ทหารเรือที่ 13 ทัพเรือภาคที่ 3 เจ้าหน้าที่ทหารเรืออีกจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่หมู่ 1 ต.รัษฎา อ.เมือง ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงหลังมีการร้องเรียนกรณีเอกชนสร้างรั้วลวดหนามปิดกั้นเส้นทางสาธารณะ และปักป้ายเตือน “ที่ดินและถนนส่วนบุคคล-ห้ามเข้า อันตราย!” ทำให้ชาวบ้านในชุมชนได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถใช้เส้นทางดังกล่าวเพื่อเดินทางลงไปยังบริเวณชายหาดแหลมหงา
ทั้งนี้ เท่าที่มีการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า ถนนดังกล่าวสร้างมาประมาณ 15 ปีแล้ว โดยทางหลวงชนบทเป็นผู้สร้าง หลังจากนั้น ได้โอนให้เทศบาลตำบลรัษฎา ดูแล ซึ่งถนนสร้างยาวไปจนถึงชายหาด ตัดผ่านที่ดินเอกชน ซึ่งถนนที่ปิดไปถึงชายหาดนั้นมีความยาวประมาณ 600 เมตร ถูกปิดหลังจากมีการรังวัดรวมแปลงที่ดินเมื่อปี พ.ศ.2554 และในบันทึกการรังวัดรวมแปลงในปีดังกล่าว ระบุว่า มีที่ดินติดทางสาธารณะแต่ไม่รุกล้ำ ซึ่งไปสิ้นสุดเส้นทางของเอกชนที่มีการสร้างรั้วลวดหนามปิดกั้นเพื่อไม่ให้ชาวบ้านผ่านเข้าไปยังชายหาดสาธารณะหาดแหลมหงา
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้แทนเจ้าของที่ดินระบุว่า เส้นทางที่มีการปิดกั้นเป็นเส้นทางซึ่งต่อเนื่องจากทางสาธารณประโยชน์ ในส่วนที่ปิดกั้นเป็นที่ดินส่วนบุคคล ทางเจ้าของที่ดินไม่ได้ยกให้เป็นทางสาธารณะแต่อย่างใด
ขณะที่รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในส่วนของถนนโดยสภาพแล้วเป็นทางสาธารณะ มีการก่อสร้างจดชายหาดแหลมหงา ซึ่งตัดผ่านในที่ของเอกชน จะต้องมีการตรวจสอบเท็จจริงจากทางหลวงชนบทอีกครั้งถึงที่มาที่ไปของถนนเส้นนี้ ว่า ก่อสร้างเข้าไปในที่ของเอกชนได้อย่างไร ส่วนประเด็นการปิดถนนถ้ามองตามเอกสารสิทธิที่ดินเอกชนมีสิทธิปิดได้เพราะเป็นที่ส่วนบุคคล แต่อย่างไรก็ตาม ตนได้ขอให้มีการเปิดเส้นทางให้ชาวบ้านได้ใช้ร่วมกันเป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีการพิสูจน์ได้ว่าเป็นทางสาธารณะหรือไม่