xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้าน 200 ครอบครัวในยะลาไม่กล้าออกกรีดยาง หลังพบถูกคนร้ายลอบยิงต่อเนื่อง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ยะลา - ชาวบ้านประมาณ 200 ครอบครัว ภายใน ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา ไม่กล้าออกไปกรีดยาง หลังพบชาวบ้านถูกลอบยิงอย่างต่อเนื่อง และยังไม่มีเจ้าหน้าที่มาช่วยรับรองความปลอดภัย จนทำให้เกิดอาการหวาดกลัวทำรายได้หดหาย วอนขอเจ้าหน้าที่ลงช่วยเหลือดูแลรักษาความปลอดภัยให้ภายในชุมชน

วันนี้ (26 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพความเป็นอยู่ของชาวบ้านใน 3 หมู่บ้าน ในเขตพื้นที่ ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา หลังจากที่ได้เกิดเหตุชาวบ้านเสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง โดยไม่รู้สาเหตุ ทำให้ชาวบ้านประมาณ 200 ครอบครัว ไม่กล้าออกไปกรีดยาง ส่งผลกระทบต่อรายได้ให้แก่ชาวบ้านดังกล่าวอย่างมาก เนื่องจากชาวบ้านมีอาชีพกรีดยางเป็นส่วนใหญ่ จึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาแก้ไขสถานการณ์ให้โดยเร็ว ก่อนที่ปัญหาดังกล่าวจะบานปลาย ส่วนหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุกรณีดังกล่าว ได้แก่ หมู่ 3 บ้านสะปอง บ้านกือซง และบ้านทำนบ ภายใน ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา

จากการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ ระบุว่า ชาวบ้านที่นี่ไม่กล้าออกไปกรีดยางตามปกติ หลังจากในพื้นที่เกิดเหตุยิงชาวบ้านที่กรีดยางเสียชีวิตมาแล้ว 5 ศพ ตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงเดือนมีนาคม 2559 ประกอบด้วย เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2559 คนร้ายลอบยิง นายดอรอแม อาบูบากา อายุ 50 ปี และนางอามีเนาะ อาบูบากา อายุ 49 ปี สองสามีภรรยาเสียชีวิตขณะนั่งรถยนต์เดินทางไปที่สวนยาง เหตุเกิดบริเวณหมู่ที่ 3 บ้านทำนบ ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2559 คนร้ายลอบยิง นายอับราชิ มูจุ อายุ 48 ปีเสียชีวิต ขณะเดินไปทำละหมาดที่มัสยิดในหมู่บ้าน เหตุเกิดบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 78/1 หมู่ที่ 3 บ้านสะปอง ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา

นอกจากนั้น เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2559 คนร้ายยิง นายอิบบอรอเฮ็ง ราแดง อายุ 36 ปีเสียชีวิตขณะกรีดยางภายในสวนยางพารา บ้านสะปอง หมู่ 3 บ้านบาซาลาแป บ้านย้อน บ้านทำนพ ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา และเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2559 คนร้ายยิง และเผา นายฉัตรชัย แซ่ทอง อายุ 55 ปี เสียชีวิตขณะขับขี่รถจักรยายนต์ไปกรีดยาง เหตุเกิดบริเวณ หมู่ที่ 5 ต.บาโระ อ.ยะหา จ.ยะลา

จนกระทั่งล่าสุด ชาวบ้านกว่า 50 คน รวมตัวกันบริเวณมัสยิดบ้านทำนพ หมู่ 3 ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว หลังจากได้เสนอปัญหาให้แก่หน่วยงานภาครัฐ และได้ร้องขอกำลังทหารเข้ามาอยู่ในพื้นที่นานกว่า 1 เดือนที่แล้ว แต่กลับไม่มีความคืบหน้า

นอกจากนั้น ยังได้มีตัวแทนชาวบ้าน บ้านทำนพ วัย 50 ปี รายหนึ่งกล่าวว่า วันนี้ทราบว่ามีนักข่าวเข้ามาจึงรวมตัวกันเพื่อพูดคุยหาแนวทางแก้ปัญหาหลังจากร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ 1 เดือนมาแล้ว ไม่มีความคืบหน้าเลย ชาวบ้านต้องการให้ทหารเข้ามาอยู่ในพื้นที่ เพื่อสร้างความอุ่นใจให้ชาวบ้าน แต่กลับไม่มีคำตอบใดๆ จากฝ่ายรัฐ นายอำเภอ ทหาร ตำรวจ เงียบทุกฝ่าย แถมกลับมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเรากว่า 1,200 คน ไม่ใช่ปัญหา นี่คือปัญหาใหญ่สำหรับพวกเรา

“เราแค่ขอให้ทหารมาอยู่ในพื้นที่ เพราะช่วงที่เกิดเหตุปี 2548 ถึงปี 2553 ที่เหตุการณ์เกิดอย่างรุนแรง ทหารก็เข้ามาอยู่ทุกอย่างก็สงบดีเป็นปกติ ชาวบ้านมีความสุขมาก สามารถทำงานเลี้ยงครอบครัว พอทหารออกไป 2 ปีได้ ที่นี่ก็เกิดเหตุยิงชาวบ้านไปกรีดยาง ที่เราไม่กล้าไปกรีดเพราะเรากลัวว่าจะถูกยิงอีก”

นายมามะซารี คอลอราแม อายุ 57 ปี อิหม่ามประจำมัสยิดบานทำนพ หมู่ที่ 3 ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา กล่าวว่า ทุกวันนี้ชาวบ้านร่วมกันจัดเวรยามกัน คืนหนึ่งจะมีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน 2 คน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน 2 คน กรรมการผู้นำศาสนา 2 คน และชาวบ้าน 4 คน มีการวางกำลัง 2 จุด ที่มัสยิดทำนพ 1 จุด และที่มัสยิดบ้านสะปอง 1 จุด เหตุผลที่ตั้งเวรยามที่นี่เพราะที่นี่เป็นสามแยก และอยู่ปากทางเข้าหมู่บ้านย่อยๆ อีกหลายหมู่บ้าน

“ผมเป็นอิหม่ามผมก็ต้องถือปืน ทั้งที่อิหม่ามเขาทำแต่เรื่องศาสนา แต่เมื่อบ้านของเราไม่มีความสงบ เราจำเป็นต้องถือปืนเพื่อป้องกันคนแปลกหน้าเข้ามา แต่ถ้าคนร้ายเข้ามาก็ต้องหนีเพราะยิงไม่เป็นเหมือนคนอื่นเขา”

เหตุผลที่ชาวบ้านต้องการให้ทหารเข้ามาอยู่ที่นี่ เพราะสามารถสร้างความอุ่นใจให้แก่ชาวบ้าน เมื่ออยู่ในพื้นที่ ความเข้าใจ ความรู้จักมีมากขึ้น แต่ถ้าอยู่ข้างนอก ใครเป็นใครก็ไม่สามารถจะรู้ได้ ไม่เข้าใจกัน เขาไม่รู้เรา เราก็ไม่รู้เขา ที่สำคัญคนไม่ดีก็ไม่กล้าเข้ามา ถ้าทหารอยู่ที่นี่ เวลาชาวบ้านมีอะไรก็สามารถช่วยเหลือได้ทันที ไม่ต้องรอเป็นชั่วโมงเช่นทุกวันนี้

อย่างตอนนี้ทหารที่ใกล้สุดคือ ฐานทหารที่บ้านคอลอราแม ห่างจากบ้านทำนพ ประมาณ 2 กิโลเมตร แต่พอมีเหตุการณ์ใช้เวลา 2 ชั่วโมงกว่าทหารจะมาถึง นี่คือเหตุผลที่ชาวบ้านต้องการให้ทหารเข้ามาอยู่ในพื้นที่
 

 
นางมารีเยาะ เปาะโอ๊ะ อายุ 53 ปี ชาวบ้านบาซาลาแป บ้านย้อย บ้านทำนพ ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้กรีดยางอยู่กับลูกสาวคนโต 2 คน เพราะสามีไม่กล้ามากรีดยาง เขาเลี้ยงวัวอยู่ที่ จ.ปัตตานี ตนกับลูกสาวจึงต้องมากรีดยาง ตอนนี้ต้องทิ้งสวนยาง 30 ไร่ของตัวเองมารับจ้างกรีดยางที่บ้านด้านล่างในหมู่บ้าน พอมีเงินมาซื้อข้าวปลากินได้บ้างกับลูกสาว จะรอจนกว่าที่นี่สงบ

“ไม่ใช่กะห์คนเดียวนะที่ไม่กล้ากรีดยางข้างภูเขาบาซาลาแป แต่มีชาวบ้านอีก 200 ครอบครัว ต้องทิ้งบ้านกลับไปอยู่ที่ จ.ปัตตานี ส่วนกะห์ก็มาอยู่ในหมู่บ้านด้านล่างเขา”

ทุกวันนี้มีชาวบ้านบางคนทนไม่ไหว กลัวก็กลัว แต่ลูกไม่มีข้าวกินต้องรวมตัวกันเป็นกลุ่มขึ้นไปกรีดยางบ้างช่วงกลางวัน บางคนไปแล้วได้ยินเสียงกิ่งไม้ก็วิ่งลงมาอย่างไม่คิดชีวิต ชาวบ้านกลัวมาก แต่ไม่รู้จะทำยังไง เคยร้องขอกำลังเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการประจำอำเภอยะหา แต่ก็ยังเงียบ นายอำเภอมาในพื้นที่ ทุกคนก็อุ่นใจ พอนายอำเภอออกไปความหวาดกลัวก็เกิดขึ้น ไม่ทันมืดทุกคนต้องปิดบ้าน

“มาที่นี่ช่วงกลางวันก็จะเห็นว่าไม่มีอะไร แต่พอตกเย็นชาวบ้านจะปิดประตูหน้าต่าง และบางคนมีรูที่เป็นช่องลมของบ้านก็จะเอาก้อนหิน หรือไม้ปิดหมด เพราะกลัวคนที่อยู่ข้างนอกจะเห็น ผู้หญิงจะอยู่ที่บ้าน ส่วนผู้ชายจะไปนอนกันที่มัสยิดเพราะกลัวไม่กล้าอยู่บ้าน”

บางคนก็ย้ายลูกออกจากโรงเรียนกลับไปเรียนที่ จ.ปัตตานี เพราะไม่รู้ว่าที่นี่จะมีความไม่สงบอีกนานแค่ไหน รัฐจะเข้ามาช่วยเหลืออย่างที่พวกเราร้องขอหรือไม่ ก็ยังไม่เห็นทางออก

เหตุการณ์อื่นเกิดขึ้นไม่นานเจ้าหน้าที่สามารถหาตัวคนร้ายได้ เช่น เหตุการณ์บุกโรงพยาบาลก็จับคนร้ายได้เลย รู้ว่าคนร้ายกลุ่มไหน แต่ที่มายิงชาวบ้านเจ้าหน้าที่กลับไม่มีข้อเท็จจริงมาอธิบายได้ว่าเกิดเพราะอะไร ใครทำ แล้วทำไปทำไม ซึ่งถ้ารู้สาเหตุก็จะทำให้ความกลัวลดลงบ้าง แต่เมื่อไม่รู้ ก็ทำให้หวาดกลัว ระแวงไปหมด

แปลกใจอยู่เรื่องหนึ่ง ชาวบ้านมีเป็น 100 ครอบครัว ไม่กล้าขึ้นไปที่บ้านบาซาลาแป แต่ก็มีพรานล่าสัตว์กล้าขึ้นไป บางครั้งลงมาจะค่ำแล้ว ก็แปลกใจ ถามเจ้าหน้าที่เขาก็บอกไม่รู้

นายสมศักดิ์ ศรีสมบัติ นายกเทศมนตรีตำบลปะแต จ.ยะลา กล่าวว่า ใช่ยอมรับว่าปัญหาชาวบ้านไม่กล้าไปกรีดยางในพื้นที่มีจริง แต่ก็เป็นหมู่เดียวคือ หมู่ 3 บ้านทำนพ บ้านสะปอง บ้านกือซง ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา พื้นที่หมู่ 3 มีประชากร 1,000 คน เป็นคนในพื้นที่ มีทะเบียนราษฎรอยู่ที่นี่ 800 คน เป็นคนจากนอกพื้นที่ทั้งจาก จ.ยะลา ปัตตานี นราธิวาส 200 คน

ชาวบ้านที่นี่ส่วนใหญ่จะขึ้นกรีดยาง ทำสวนผลไม้ที่บ้านบาซาลาแป เป็นหมู่บ้านย่อยๆ ของบ้านทำนพ ที่นี่จะอยู่ห่างจากบ้านทำนพ 6 กิโลเมตร สภาพพื้นที่เป็นป่า สลับด้วยสวนยาง และสวนผลไม้ของชาวบ้าน เป็นภูเขามีพื้นที่ 1,000 กว่าไร่ เมื่อที่นี่เกิดปัญหา ชาวบ้านจากบ้านทำนพ บ้านสะปอง และบ้านกือซง ก็ต้องเดือดร้อน ไม่สามารถกรีดยางได้มาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว

“ที่ผ่านมา พยายามเข้าไปสร้างความเข้าใจต่อชาวบ้าน สร้างความเชื่อมั่น แต่ก็ยังไม่ใช่แนวทางที่แก้ปัญหาจากที่เขาต้องการ และทำให้เขาอุ่นใจได้เพียงไม่นาน อย่างวันนี้ ในพื้นที่มีงานรับบัณฑิตน้อย ก็พยายามจัดงานให้ยิ่งใหญ่เพื่อต้องการสร้างความสุขให้แก่ชาวบ้านอย่างเต็มที่ เขาจะได้ลืมเรื่องแย่ๆ ที่เกิดขึ้นบ้าง”
 
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น