ยะลา - ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว เปิดป้อมตำรวจท่องเที่ยวดูแลประชาชน และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติ คอยให้บริการสอบถามเส้นทาง และแจ้งเหตุร้ายตลอด 24 ชั่วโมง
วันนี้ (24 มี.ค.) ที่หน่วยบริการประชาชนตำรวจท่องเที่ยวเบตง อ.เบตง จ.ยะลา พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วยบริการประชาชน และนักท่องเที่ยวที่เป็นพื้นที่ด่านชายแดนระหว่าง อ.เบตง จ.ยะลา กับประเทศมาเลเซีย พร้อมกับร่วมเปิดป้อมตำรวจหน่วยบริการประชาชน ตำรวจท่องเที่ยวเบตง จ.ยะลา ซึ่งเป็นจุดตรวจร่วม สภ.เบตง และกำลังในพื้นที่ เพื่อเปิดไว้บริการประชาชนที่มาสอบถามเส้นทางการท่องเที่ยว และเป็นจุดสกัดสิ่งผิดกฎหมายทางชายแดน โดยมีหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ และข้าราชการใน อ.เปิงกาลันฮูลู ประเทศมาเลเซีย หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ นายอำเภอเบตง นายกเทศมนตรีเมืองเบตง และภาคเอกชนเข้าร่วม
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวว่า พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีศักยภาพ และทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวสูง โดยเฉพาะ อ.เบตง เป็นหน่วยรวมสังคมพหุวัฒนธรรม ซึ่งมีประชาชนทั้งชาวไทยพุทธ ไทยมุสลิม และพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขมาเป็นเวลานาน ถึงแม้ว่าบางพื้นที่ยังคงเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบอยู่ก็ตาม แต่ภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ อ.เบตง มีส่วนสำคัญอย่างมากในการเสริมสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้น
ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการสอบสวนกลาง และกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ที่มุ่งเน้นที่จะสร้างความสะดวก และอำนวยความปลอดภัย พร้อมทั้งให้บริการแก่ประชาชน และนักท่องเที่ยวชาวไทย และต่างชาติอย่างเต็มความสามารถ เพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดในพื้นที่ และเกิดความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว และอาสาสมัครมีความตั้งใจพิทักษ์รับใช้ประชาชน และนักท่องเที่ยว อะไรที่เป็นภัย ไม่ปลอดภัย ก็ต้องพยายามแก้ไข พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวในพื้นที่ตรวจเข้ม โดยในทางปฏิบัติจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว และอาสาสมัครมาประจำที่หน่วยตลอด 24 ชั่วโมง สลับสับเปลี่ยนกันไป
สำหรับพื้นที่ อ.เบตง เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาตินิยมเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีเทศกาลต่างๆ ซึ่งทาง อ.เบตง จัดขึ้นเป็นประจำ ตลอดจนมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรมเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวมาจากมาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และนักท่องเที่ยวจาก 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่เดินทางมาเป็นคณะรถบัส เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง