ตรัง - ชาวสิเกา ร้องได้รับผลกระทบจากปัญหาโรงงาน 2 แห่งในพื้นที่ลักลอบปล่อยน้ำเสีย ส่งกลิ่นเหม็น ทำเด็ก และผู้ใหญ่ป่วยเป็นโรคหอบหืด ไอเรื้อรัง และปอดอักเสบ วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความเป็นธรรมเร่งให้การช่วยเหลือ
วันนี้ (21 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านหมู่ที่ 1 ต.นาเมืองเพชร อ.สิเกา จ.ตรัง ซึ่งได้รับผลกระทบจากปัญหาการลักลอบปล่อยน้ำเสีย และกลิ่นเหม็น ที่โรงงานผลิตยางพาราแผ่นดิบทั้ง 2 โรงงาน ซึ่งตั้งอยู่ในชุมชนลักลอบปล่อยน้ำเสีย และส่งกลิ่นเหม็นออกสู่ชุมชนเป็นเวลานาน ส่งผลให้เด็กๆ ภายในหมู่บ้าน รวมทั้งผู้ใหญ่นับร้อยคนได้รับผลกระทบจนเป็นโรคหอบหืด ไอเรื้อรัง และปอดอักเสบ
หลังการร้องเรียนไปยังโรงงานทั้ง 2 แห่ง จนต้องมีการนำแพทย์ออกตรวจสุขภาพชาวบ้านถึงหมู่บ้านผล คือ เด็ก และผู้ใหญ่ป่วยระนาว จนเด็กบางคนต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตรังเป็นเวลานาน และยังต้องพบแพทย์อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต เนื่องจากแพทย์ระบุว่า เป็นโรคหอบหืด ภูมิแพ้ อันเนื่องมาจากปัญหาดังกล่าว
โดยพบเด็กๆ ที่มีอาการหนักที่สุดรวม 7 ราย ซึ่งทางโรงงานได้ทำการชดเชยแค่รายละ 5,000 บาท จากที่เรียกร้องไปรายละ 100,000 บาท โดยชดเชยแปลงผักให้ชาวบ้านไร่ละ 50,000 บาทแทน สร้างความไม่พอใจให้แก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก จึงรวมตัวกันเรียกร้องขอความเห็นใจต่อทางโรงงาน เนื่องจากได้รับผลกระทบมานานกว่า 2 ปีแล้ว แต่ยังไม่มีหน่วยงานใดให้ความช่วยเหลือ ซึ่งบางรายผู้ปกครองยังต้องหอบลูกหลานไปโรงพยาบาลกลางดึก หลังมีอาการหอบหืดอย่างรุนแรงเมื่อได้กลิ่นเหม็นจากทางโรงงาน และเด็กหลายคนเริ่มมีอาการหนักขึ้น ขณะที่ผู้ใหญ่บางรายต้องย้ายออกจากพื้นที่เพราะทนกลิ่นเหม็น และภาวะน้ำเน่าเสียไม่ไหว
นางพรพิมล ช่วยธานี อายุ 50 ปี มารดาของ ด.ญ.น้ำหนึ่ง ช่วยธานี อายุ 4 ปีเศษ กล่าวว่า ตนต้องเสียเวลาทำมาหากินมานานกว่า 2 ปี เนื่องจากบุตรสาวป่วยด้วยโรคหอบหืดจากผลกระทบของโรงงาน ซึ่งกลางดึกที่ผ่านมา ต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลตรัง เนื่องจากอาการกำเริบ นอกจากนี้ ยังทำให้เด็กหลายคนในหมู่บ้านมีอาการเดียวกันคือ ไอ หอบหืด และปอดอักเสบเรื้อรัง ต้องฉีดพ่นยา และกินยาตลอดชีวิต จึงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้ความช่วยเหลือ
เช่นเดียวกับ นายอุทัย บุญสุข อายุ 46 ปี ชาวบ้านหมู่ 1 ต.นาเมืองเพชร กล่าวว่า หลานสาวของตนป่วยหลังได้รับผลกระทบตั้งแต่แรกเกิดจนถึงปัจจุบันอายุกว่า 2 ปีแล้ว โดยพบเด็กๆ ล้มป่วยกันทั้งหมู่บ้านมากบ้างน้อยบ้าง แต่บางรายไม่กล้าออกมาแสดงตัว ซึ่งตนห่วงสุขภาพของชาวบ้านในชุมชนต่อไปในอนาคต จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความเป็นธรรมต่อชาวบ้านด้วย