ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ท่าอากาศยานภูเก็ต ไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีต่อหนุ่มรัสเซียที่ป่วนในเครื่องบิน ล่าสุด กัปตันนำเครื่องบินออกจากภูเก็ตแล้ว ขณะที่นายอเล็กซานเดอร์ ยังอยู่ภายใต้การดูแลของทหารชุดดูแลความสงบสนามบินภูเก็ตจนกว่าเครื่องจะถึงสนามบินปลายทาง
จากกรณี นายอเล็กซานเดอร์ โนซอฟ อายุ 25 ปี สัญชาติรัสเซีย ซึ่งจะโดยสารไปกับสายการบินนอร์ดวินด์ แอร์ไลน์ เส้นทางภูเก็ต-มอสโก เที่ยวบิน NWS2478 พูดลักษณะว่า “ไม่อยากโดยสารไปกับเครื่องบินลำนี้ เพราะรู้สึกไม่ปลอดภัย” ทำให้กัปตันประจำเครื่อง ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมคุมการบิน และท่าอากาศยานภูเก็ตเพื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ โดยเชิญผู้โดยสารทั้งหมด จำนวน 369 คน ลงจากเครื่อง และนำเครื่องไปจอดยังหลุดจอดระยะไกล เพื่อให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชุดตรวจสอบวัตถุระเบิดท่าอากาศยานภูเก็ต และผู้เกี่ยวข้องเข้าตรวจคัดกรองผู้โดยสารทั้งหมด พร้อมตรวจสัมภาระ จำนวน 323 ชิ้น จากการตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติใด ทำให้สายการบินเที่ยวดังกล่าวต้องดีเลย์นานกว่า 6 ชั่วโมง จากเดิมมีกำหนดบินเวลา 10.35 น. แต่ต้องนำเครื่องจอดเพื่อตรวจสอบความปลอดภัย และทำการบินได้อีกครั้งในช่วงเวลาประมาณ 17.28 น.ที่ผ่านมา
ขณะที่ นายอเล็กซานเดอร์ โนซอฟ อายุ 25 ปี สัญชาติรัสเซีย ผู้โดยสารที่พูดจนเกิดความเสียหายดังกล่าว ทางกัปตันไม่อนุญาตให้โดยสารไปกับสายการบิน ซึ่งในส่วนของการดำเนินคดีนั้น พ.ต.อ.สมชาย สรรประเสริฐ ผกก.ท่าฉัตรไชย เปิดเผยว่า จากการสอบถามข้อเท็จจริงจากเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายแล้วไม่พบฐานความผิด และไม่มีเจ้าทุกข์แจ้งความใดๆ เนื่องจาก นายอเล็กซานเดอร์ พูดเพียงว่า “ต้องการลงจากเครื่อง ไม่ประสงค์จะเดินทางกับสายการบินนี้แล้วเนื่องจากรู้สึกไม่ปลอดภัย” ไม่เข้าข่ายข่มขู่ หรือพูดในลักษณะบ่งบอกว่าบนเครื่องบินมีระเบิด หรืออาวุธ หรือสิ่งที่จะทำให้เกิดอันตราย
ด้าน เรือตรีธานี ช่วงชู รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวว่า ทางท่าอากาศยานภูเก็ตไม่มีการแจ้งความต่อ นายอเล็กซานเดอร์ เนื่องจากการสอบปากคำแล้วพบว่า ไม่เข้าข่ายความผิด และในส่วนของสายการบินเองยังไม่มีการดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับเรื่องของค่าเสียเวลาที่ทำให้เครื่องต้องดีเลย์ แต่เบื้องต้น ทางกัปตันเครื่องบินลำดังกล่าวได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ทหารชุดคสช.ที่ดูแลความสงบเรียบร้อยในสนามบิน ควบคุมตัว นายอเล็กซานเดอร์ ไว้ก่อน จนกว่าเครื่องบินจะเดินทางถึงมอสโก เพื่อป้องกันการก่อกวนไปยังสนามบินปลายทาง และเมื่อเครื่องบินถึงจุดหมายแล้วทางสถานกงสุลรัสเซียประจำภูเก็ต และสถานทูตรัสเซียประจำประเทศไทย จะเป็นผู้มารับตัว นายอเล็กซานเดอร์ เพื่อดำเนินการส่งกลับประเทศต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในส่วนการเรียกร้องค่าเสียหาย ค่าเสียเวลาต่อ นายอเล็กซานเดอร์ นั้นเป็นเรื่องของสายการบินที่จะดำเนินการหรือไม่
จากกรณี นายอเล็กซานเดอร์ โนซอฟ อายุ 25 ปี สัญชาติรัสเซีย ซึ่งจะโดยสารไปกับสายการบินนอร์ดวินด์ แอร์ไลน์ เส้นทางภูเก็ต-มอสโก เที่ยวบิน NWS2478 พูดลักษณะว่า “ไม่อยากโดยสารไปกับเครื่องบินลำนี้ เพราะรู้สึกไม่ปลอดภัย” ทำให้กัปตันประจำเครื่อง ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมคุมการบิน และท่าอากาศยานภูเก็ตเพื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ โดยเชิญผู้โดยสารทั้งหมด จำนวน 369 คน ลงจากเครื่อง และนำเครื่องไปจอดยังหลุดจอดระยะไกล เพื่อให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชุดตรวจสอบวัตถุระเบิดท่าอากาศยานภูเก็ต และผู้เกี่ยวข้องเข้าตรวจคัดกรองผู้โดยสารทั้งหมด พร้อมตรวจสัมภาระ จำนวน 323 ชิ้น จากการตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติใด ทำให้สายการบินเที่ยวดังกล่าวต้องดีเลย์นานกว่า 6 ชั่วโมง จากเดิมมีกำหนดบินเวลา 10.35 น. แต่ต้องนำเครื่องจอดเพื่อตรวจสอบความปลอดภัย และทำการบินได้อีกครั้งในช่วงเวลาประมาณ 17.28 น.ที่ผ่านมา
ขณะที่ นายอเล็กซานเดอร์ โนซอฟ อายุ 25 ปี สัญชาติรัสเซีย ผู้โดยสารที่พูดจนเกิดความเสียหายดังกล่าว ทางกัปตันไม่อนุญาตให้โดยสารไปกับสายการบิน ซึ่งในส่วนของการดำเนินคดีนั้น พ.ต.อ.สมชาย สรรประเสริฐ ผกก.ท่าฉัตรไชย เปิดเผยว่า จากการสอบถามข้อเท็จจริงจากเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายแล้วไม่พบฐานความผิด และไม่มีเจ้าทุกข์แจ้งความใดๆ เนื่องจาก นายอเล็กซานเดอร์ พูดเพียงว่า “ต้องการลงจากเครื่อง ไม่ประสงค์จะเดินทางกับสายการบินนี้แล้วเนื่องจากรู้สึกไม่ปลอดภัย” ไม่เข้าข่ายข่มขู่ หรือพูดในลักษณะบ่งบอกว่าบนเครื่องบินมีระเบิด หรืออาวุธ หรือสิ่งที่จะทำให้เกิดอันตราย
ด้าน เรือตรีธานี ช่วงชู รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวว่า ทางท่าอากาศยานภูเก็ตไม่มีการแจ้งความต่อ นายอเล็กซานเดอร์ เนื่องจากการสอบปากคำแล้วพบว่า ไม่เข้าข่ายความผิด และในส่วนของสายการบินเองยังไม่มีการดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับเรื่องของค่าเสียเวลาที่ทำให้เครื่องต้องดีเลย์ แต่เบื้องต้น ทางกัปตันเครื่องบินลำดังกล่าวได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ทหารชุดคสช.ที่ดูแลความสงบเรียบร้อยในสนามบิน ควบคุมตัว นายอเล็กซานเดอร์ ไว้ก่อน จนกว่าเครื่องบินจะเดินทางถึงมอสโก เพื่อป้องกันการก่อกวนไปยังสนามบินปลายทาง และเมื่อเครื่องบินถึงจุดหมายแล้วทางสถานกงสุลรัสเซียประจำภูเก็ต และสถานทูตรัสเซียประจำประเทศไทย จะเป็นผู้มารับตัว นายอเล็กซานเดอร์ เพื่อดำเนินการส่งกลับประเทศต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในส่วนการเรียกร้องค่าเสียหาย ค่าเสียเวลาต่อ นายอเล็กซานเดอร์ นั้นเป็นเรื่องของสายการบินที่จะดำเนินการหรือไม่