ชุมพร - อดีตผู้ใหญ่บ้านตำบลนาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร ออกมาเรียกร้องให้หน่วยงานเกี่ยวข้องตรวจสอบโฉนดที่ดินหมดสัมปทานบัตรเหมืองแร่ที่นายทุนเอาไปออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบหรือไม่ ขณะที่ชาวบ้านเตรียมเข้าพบผู้ว่าฯและ คสช.ชุมพร
จากกรณีที่ชาวบ้านชุมชนในเหมือง ตำบลนาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร ออกมาเรียกร้องให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องเร่งออกเอกสารสิทธิที่ดินที่ให้แก่ชาวบ้านอาศัยทำกินในที่ดินหมดสัมปทานเหมืองแร่ดีบุกมาตั้งแต่ปี 2540 แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า แต่ขณะเดียวกัน กลับมีการออกโฉนดให้แก่นายทุนกลุ่มหนึ่งได้ ส่วนของชาวบ้านหน่วยงานเกี่ยวข้องให้คำตอบว่าอยู่ระหว่างการดำเนินการสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (3 มี.ค.) นายอนันต์ กลับดี อายุ 49 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 10 ตำบลนาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร กล่าวว่า เมื่อปี พ.ศ.2540 ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าไม่สามารถออกเอกสิทธิที่ดินได้ จึงได้รวมตัวกันไปร้องเรียนหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่ก็ไม่มีความคืบหน้าใดๆ จนถึงทุกวันนี้ ในขณะเดียวกัน กลุ่มนายทุนกลับมีการออกโฉนดได้ จึงอยากเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องตรวจสอบว่าการออกโฉนดของนายทุนนั้นออกโดยชอบหรือไม่ โดยเฉพาะที่ดินของกลุ่มนายทุนที่ทำให้เกิดข้อพิพาทอ้างสิทธิทับซ้อนกับของชาวบ้านจนเป็นข้ออ้างของเจ้าหน้าที่เรื่อยมา จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ลงมาตรวจสอบ และเร่งออกเอกสารสิทธิให้ชาวบ้านที่ส่วนใหญ่ไม่ได้มีข้อพิพาทกับใคร เพราะชาวบ้านรอมานานเกือบ 20 ปีแล้ว
ด้าน นางอาลัย พารารชุน อายุ 72 ปี กล่าวว่า ตนมีที่ดินปลูกปาล์มน้ำมันอยู่บริเวณดังกล่าวเมื่อปี 2537 จำนวน 120 ไร่ ต่อมา ในปี 2540 เจ้าหน้าที่ออกสำรวจเพื่อออกเอกสารสิทธิตนก็ไปยื่นเรื่องแต่ก็ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่อ้างว่ายังเป็นป่า และไม่มีการเข้าทำประโยชน์ จนกระทั่งต่อมาปี 2542 ได้มีนายทุนมาแจ้งว่าที่ดินบริเวณดังกล่าวมีเอกสารสิทธิ และต่อมาในปีเดียวกันตนถูกเจ้าหน้าที่จับกุมทั้งที่ก่อนหน้านั้นเคยไปร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร และมีคำสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ไปสำรวจเขตประทานบัตรให้แน่นอน แล้วให้สำนักงานที่ดินดำเนินการเพิกถอนโฉนดที่ออกทับที่เขตประทานบัตร และให้ประนีประนอมไม่ให้มีการจับกุมชาวบ้าน และตนได้ต่อสู้ในชั้นศาลเรื่อยมา จนถึงศาลฎีกาพิพากษาให้ที่ดิน จำนวน 46 ไร่ ตกเป็นของผู้ฟ้อง หลังจากนั้นไม่นานนายทุนเข้ามาทำรั้วกั้นในที่ดินดังกล่าวทั้งหมด 120 ไร่ ทั้งๆ ที่ศาลพิพากษาให้เพียง 46 ไร่นั้น และยังมีชาวบ้านอีกหลายรายก็ตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน จึงขอความเป็นธรรม และวิงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบเอกสารสิทธิในที่ดินให้ชัดเจน และที่ผ่านมา มีการออกโดยชอบหรือไม่ด้วย
ผู้ข่าวรายงานว่า ขณะนี้ชาวบ้านกำลังนัดหมายรวมตัวกันเพื่อเดินทางเข้าพบ นายสมดี คชายั่งยืน ผวจ.ชุมพร และ คสช.จังหวัดชุมพร เพื่อเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากกรณีดังกล่าว