ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ชายฝั่ง อ.สิงหนคร จ.สงขลา วิกฤตคลื่นกินพื้นที่สงฆ์จาก 80 ไร่ เหลือเพียง 2 ไร่ แหล่งท่องเที่ยวถนนพังราบจมทะเล เร่งทุ่มงบกว่า 220 ล้านบาท แก้ปัญหา เผยปีนี้คลื่นหนักสุดในรอบ 12 ปี
วันนี้ (1 มี.ค.) พื้นที่ชายฝั่งทะเลอ่าวไทยในภาคใต้หลายแห่งอยู่ในภาวะวิกฤต ถูกคลื่นกัดเซาะจนพื้นดิน และชายชายฝั่งจมหายไปในทะเล เช่นที่ จ.สงขลา มีพื้นที่ตลอดแนวชายฝั่ง 6 อำเภอที่ได้รับผลกระทบคลื่นกัดเซาะชายฝั่งตั้งแต่ อ.ระโนด อ.สทิงพระ อ.สิงหนคร อ.เมือง อ.จะนะ และ อ.เทพา
แต่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด และอยู่ในภาวะวิกฤตถูกคลื่นกัดกินพื้นที่ชายฝั่งหายไปในทะเลจำนวนมาก อยู่ที่บริเวณชายฝั่ง หมู่ 1 และหมู่ 2 ต.ชิงโค อ.สิงหนคร โดยเฉพาะธรรมสถานหาดทรายแก้ว หมู่ 1 ต.ชิงโค ปัจจุบันเหลือเนื้อที่อยู่เพียง 2 ไร่ จากเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 76-80 ไร่ ปัจจุบัน อยู่ในสภาพเกือบร้าง มีเพียงพระอาจารย์เล็ก ขันติวโร อาศัยอยู่เพียงรูปเดียว และเหลือกุฏิอยู่เพียง 3-4 หลัง ท่ามกลางซากปรักหักพังของโรงธรรม โบสถ์ 8 เหลี่ยม ที่ถูกคลื่นซัด โดยเฉพาะพระพุทธรูป 2 องค์ ที่ตั้งอยู่ติดชายทะเล อยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะถูกคลื่นกัดเซาะพังเสียหาย โดยเฉพาะพระพุทธรูปปางบำเพ็ญทุกริยา อยู่ในภาพเอียงเสี่ยงที่จะล้มตลอดเวลา
พระอาจารย์เล็ก เปิดเผยว่า พระพุทธรูปปางบำเพ็ญทุกรกิริยาถูกคลื่นซัด และเริ่มโน้มเอียงไปข้างหน้าตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 ก.พ.59 ที่ผ่านมา เนื่องจากถูกคลื่นซัดอย่างรุนแรง และเป็นคลื่นที่รุนแรงกว่าทุกปีที่ผ่านมานับตั้งแต่มาอยู่ที่ธรรมสถานีหาดทรายแก้วมากว่า 11 ปี โดยปัญหาคลื่นกัดเซาะพื้นที่ธรรมสถานหาดทรายแก้วเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2551 และรุนแรงต่อเนื่องขึ้นทุกปี จนปัจจุบันเหลือเนื้อที่อยู่เพียง 2 ไร่กว่า จากเดิมที่แรกเริ่มตั้งธรรมสถานีเมื่อปี 2519 ซึ่งชาวบ้านบอกว่ามีเนื้อที่ทั้งหมดราว 76-80 ไร่ โดยหลักฐานชิ้นหนึ่งที่เป็นแนวเขตของธรรมสถานเมื่อก่อนนี้ คือบ่อน้ำจืดซึ่งขณะนี้อยู่ลึกลงไปในทะเลเกือบ 10 เมตร
พระอาจารย์เล็ก บอกว่า ที่ตั้งของธรรมสถานหาดทรายแก้วเป็นของกรมเจ้าท่า ซึ่งที่ผ่านมา ทางจังหวัดสงขลา และหน่วยงานภาคเอกชนได้เข้ามาสำรวจพื้นที่เพื่อเตรียมแก้ปัญหา โดยทราบว่า กรมเจ้าท่ามีแผนที่จะสร้างแนวกั้นคลื่นถาวร แต่สิ่งที่ต้องการให้เข้ามาแก้ปัญหาก่อนคือ เคลื่อนย้ายพระพุทธรูปทั้ง 2 องค์ ที่อยู่ติดริมทะเล และถูกคลื่นซัดขึ้นมาไว้บนฝั่งเพื่อความปลอดภัย ซึ่งเคยเรียกร้องไปยังทางจังหวัดที่ลงมาสำรวจพื้นที่แล้ว 2 ครั้ง แต่ยังไม่เข้ามาดำเนินการ ส่วนตัวเองนั้นขออยู่ที่นี่ต่อไปจนกว่าจะไม่เหลือแผ่นดินของธรรมสถานแห่งนี้ เนื่องจากในอดีตบริเวณนี้เป็นที่ปฏิบัติธรรมที่มีชื่อเสียง และมีผู้คนเดินทางมาปฏิบัติธรรมจำนวนมาก แต่หลังจากเกิดปัญหาคลื่นกัดเซาะผู้คนก็หายไปจนถูกทิ้งร้างในปัจจุบัน
และนอกจากพื้นที่ของธรรมสถานหาดทรายแก้วที่ถูกคลื่นกลืนกินพื้นที่อย่างหนักแล้ว ในวันเดียวกันนี้ นายธนกร สังฆโร นายกเทศมนตรีเมืองสิงหนคร พร้อมเจ้าหน้าที่ของเทศบาลสิงหนคร พร้อมทีมผู้สื่อข่าวลงสำรวจพื้นที่บริเวณชายทะเลหาดทรายแก้ว ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของสงขลา แต่ปัจจุบันพื้นที่ถนนเลียบหาดทรายแก้วถูกคลื่นซัดขาดสะบั้นเสียหายเป็นระยะทาง 1,700 เมตร หลังจากที่เกิดสถานการณ์คลื่นลมแรงต่อเนื่องอย่างน้อย 4 ครั้ง ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา และยังมีรุนแรงที่สุดในรอบ 12 ปี
นายธนกร สังฆโร นายกเทศมนตรีเมืองสิงหนคร เปิดเผยว่า จากการสำรวจความเสียหายของสภาพพื้นที่ชายฝั่งทะเลของ อ.สิงหนคร ที่ถูกคลื่นซัดพังเสียหายระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ที่หนักสุดมี 3 จุด ในส่วนที่ชาวบ้าน และชาวประมงได้รับผลกระทบซึ่งอยู่ด้านหลัง ปตท.สผ. และบริเวณธรรมสถานหาดทรายแก้ว รวมทั้งถนนเลียบชายทะเลหาดทรายแก้วซึ่งเชื่อมต่อระหว่างหมู่ 1 กับหมู่ 2 ต.ชิงโค อ.สิงหนคร
นายธนกร กล่าวว่า สำหรับแนวทางแก้ปัญหาคลื่นกัดเซาะชายฝั่ง ล่าสุด ทางกรมโยธาธิการได้จัดงบประมาณ จำนวน 220 ล้านบาท เข้ามาแก้ปัญหาแล้ว โดยแยกเป็น 2 ส่วน คือ เริ่มจากการสร้างแนวกั้นคลื่นบริเวณหาดทรายแก้ว ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยว หลังจากที่ได้ศึกษาเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นจากชาวบ้าน และผู้ประกอบการในพื้นที่ โดยจะเริ่มก่อสร้างได้ราวปลายปีนี้ แต่การสร้างเขื่อนกั้นคลื่นบริเวณหาดทรายแก้ว จะคำนึงสภาพแวดล้อมเพื่อไม่ให้กระทบต่อสิ่งแวดล้อม และด้านการท่องเที่ยว อีกส่วนคือ การปรับปรุงทัศนียภาพของหาดทรายแก้วให้สวยงามเพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวของสงขลา
ส่วนปัญหาคลื่นกัดกินพื้นที่บริเวณธรรมสถานหาดทรายแก้วนั้นทราบว่า ทางกรมเจ้าท่าซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่กำลังเตรียมการสร้างเขื่อนกั้นคลื่นถาวรขึ้นเช่นเดียวกัน เพื่อไม่ให้ความเสียหายขยายวงกว้างกินพื้นที่ทั้งหมดซึ่งเหลืออยู่เพียง 2 ไร่