ศูนย์ข่าวภาคใต้ - เครือข่ายขอคืนผังเมืองสลายการชุมนุมหน้าสหประชาชาติ เผยเตรียมเคลื่อนไหวต่อจนถึงที่สุด ชี้รัฐบาลหมดความชอบธรรมแล้วในสายตาของประชาชน
วันนี้ (24 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่ายขอคืนผังเมืองจากหลายจังหวัดทั่วประเทศที่รวมตัวชุมนุมบริเวณหน้าสำนักงาน กพร.ตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล เพื่อคัดค้านการใช้อำนาจ ม.44 และคำสั่ง คสช.ฉบับที่ 3 และ ฉบับที่ 4/2559 เรื่องการแก้ไขกฎหมายผังเมืองเพื่อผลักดันเขตเศรษฐกิจ ซึ่งมีการชุมนุมตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา วันนี้ได้ไปชุมนุมที่หน้าสำนักงานสหประชาชาติ และได้ยุติการชุมนุมหลังจากตำรวจ สน.นางเลิ้ง ห้ามไม่ให้ชุมชุม และขอให้ย้ายออกจากพื้นที่ มิฉะนั้น จะดำเนินการตามกฎหมายตาม พ.ร.บ.ชุมนุมต่อแกนนำ โดยในหน้าเพจพลังพลเมืองร่วมสร้างภาคใต้น่าอยู่ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า
“13.30 น. ถอยออกจากพื้นที่หน้า UN พวกเราทำตามกฎหมายตั้งแต่วันแรกที่มีการเรียกร้อง แต่นายกฯ เองกำลังทำผิดกฎหมายใช้อำนาจต่อประชาชน คำสั่งที่ 3/2559 และคำสั่งที่ 4/2559 นั้นละเมิดสิทธิประชาชน วันนี้เราจะออกจากพื้นที่ตามกฎแจ้งเรื่องใน 24 ชั่วโมง แล้วเราจะมาใหม่และขอให้นายกฯ ทำตามกฎด้วยเช่นกัน”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้เครือข่ายขอคืนผังเมืองได้ผูกเชือกสีขาวเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์หลังจากที่ไม่ได้รับคำตอบใดๆ จากรัฐบาลความเงียบที่ทำเนียบรัฐบาล พร้อมเขียนแถลงการณ์ ระบุว่า การชุมนุมของเครือข่ายขอคืนผังเมืองหลายจังหวัดที่ขอให้ คสช.ยกเลิกประกาศฉบับที่ 3 และ 4 ที่ออกด้วยมาตรา 44 อันเป็นการเอื้อต่อทุนอุตสาหกรรมสกปรกให้เข้ามาตั้งโรงงานในชุมชนได้อย่างเสรีนั้น จบลงอย่างเงียบๆ
เป็นความเงียบที่สงัดเป็นการสื่อสารด้วยความเงียบถึงรัฐบาล คสช. รัฐบาลเผด็จการที่วันนี้ไม่แตกต่างรัฐบาลจากการเลือกตั้ง ที่เหยียบหัวชาวบ้าน เหยียบหัวคนจน เอื้อต่อทุนอุตสาหกรรมให้เข้ามากัดกินทรัพยากรชุมชนอย่างตะกละตะกลามก่อนจากไป
ความเงียบในวันนี้ ชาวบ้านจบการชุมนุมด้วยสันติวิถีด้วยการเดินไปผูกเชือกขาวที่รั้วทำเนียบ เชือกที่แสดงถึงพันธนาการที่รัฐบาลกระทำต่อชุมชน ชาวบ้านเพียงบอกว่า เอาพันธนาการคืนไป บัดนี้เราเป็นไท เราจะปราศจากความกลัวใดๆ เราพร้อมปกป้องชุมชนของเราด้วยชีวิตด้วยวิธีการของเราเอง
พันธนาการที่ คสช.มอบให้แก่ประชาชนนั้นไม่ใช่แค่ประกาศฉบับโน่นนี่ของ ม.44 แต่คือ อำนาจปืน อำนาจศาลทหาร กฎอัยการศึก อำนาจรัฐที่จะจับกุมคุมขัง ซึ่งแน่นอนว่า ประชาชนทั่วไปย่อมมีความหวาดหวั่น แต่สำหรับชาวบ้านในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเขาค่อยๆ หล่อหลอมความกล้า ขัดเกลาความกลัว สะสมพลัง และพร้อมที่จะปฏิบัติการปกป้องชุมชนของเขาในแบบของเขา โดยไม่คาดหวังการรัฐบาลอะไรอีก เพราะเสียเวลา และเปลืองน้ำลาย การผูกคืนเชือกกลับไปที่ทำเนียบเสมือนการคืนพันธนาการที่เคยหวั่นกลัวกลับไป บัดนี้เราจะปกป้องชุมชของเราไม่กลัวอะไรอีกแล้ว
ปฏิบัติการเงียบนั้นมีพลังแห่งความเงียบ และแรงอัดที่รอการระเบิด ปฏิบัติการแห่งความเงียบคือ สัญลักษณ์ที่ชาวบ้านสื่อสารออกไปว่า “รัฐบาลไม่มารับข้อเรียกร้อง คสช.ไม่มารับฟังความทุกข์ความอึดอัด ไม่เป็นไร ต่อไปนี้ชาวบ้านแบบเราๆจะเดินตามทางของพวกเรา ปฏิบัติการแบบพวกเรา รัฐบาลหมดความชอบธรรมที่จะเป็นรัฐบาลแล้วในสายตาของพวกเรา”