ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เครือข่ายประชาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ปกป้องสิทธิชุมชนและสิ่งแวดล้อมเพื่อสันติภาพ เคลื่อนขบวนแสดงความไม่พอใจ หลังคณะกรรมการกลางอิสลามฯ ดอดลงพื้นที่พบ กฟผ.ถกปมย้ายมัสยิดสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน
วันนี้ (22 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่ายประชาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ปกป้องสิทธิชุมชนและสิ่งแวดล้อมเพื่อสันติภาพ ได้เดินทางไปที่บริเวณหน้าโรงเรียนปอเนาะตะเยาะซู ต.ปากบาง อ.เทพา จ.สงขลา เพื่อเคลื่อนไหวคัดค้านโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากวันนี้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้เชิญคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ลงพื้นที่ ม.4 บ้านคลองประดู่ ต.ปากบาง อ.เทพา จ.สงขลา เพื่อติดตามดูพื้นที่มัสยิด และกุโบร์ที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากทาง กฟผ.อ้างว่าการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินจะไม่มีการใช้พื้นที่ของมัสยิด และกุโบร์ หรือหลุมฝังศพของชาวบ้าน
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายเครือข่ายฯ ได้แสดงหลักฐานในรายงานแสดงแผนผังพื้นที่ก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาของ กฟผ.พบว่า ในรายงานร่าง EHIA ชัดเจนว่า มีมัสยิด 2 แห่งอยู่ในเขตแผนผังของโรงไฟฟ้า ขณะเดียวกัน มีกุโบร์อยู่ใกล้มัสยิดดังกล่าว
นายดิเรก เหมนคร ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ปกป้องสิทธิชุมชนและสิ่งแวดล้อมเพื่อสันติภาพ กล่าวว่า การลงพื้นที่ของคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยในครั้งนี้ ไม่ได้มีการแจ้งกำหนดการให้ชาวบ้านทราบเพื่อไปร่วมรับฟังรายละเอียดการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ทำให้ชาวบ้านเกิดความรู้สึกไม่พอใจ เนื่องจากเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากโครงการฯ แต่กลับไม่ให้ชาวบ้านเข้าปมีส่วนร่วมในการลงพื้นที่ของคณะกรรมการกลางอิสลามในครั้งนี้
