สุราษฎร์ธานี - คลื่นลมแรงต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อชาวประมงพื้นบ้านในจังหวัดสุราษฎร์ธานีกว่า 5,000 ลำ ยังออกทะเลไม่ได้ นอกจากนั้น การท่องเที่ยวบนเกาะแรต อ.ดอนสัก ยังได้รับผลกระทบหนัก จนชาวบ้านบนเกาะเดือดร้อน ผู้ใหญ่บ้านวอนหน่วยงานที่เกี่ยวของลงดูแล
จากสถานการณ์คลื่นลมแรงใน จ.สุราษฎร์ธานี ติดต่อกันมานานกว่า 3 สัปดาห์แล้ว ส่งผลกระทบต่อประมงพื้นบ้านที่เป็นเรือขนาดเล็กกว่า 5,000 ลำ ไม่สามารถออกทะเลจับสัตว์น้ำมาจำหน่ายเพื่อหารายได้จุนเจือครอบครัวได้ โดยเฉพาะที่หมู่บ้านชาวประมงบ้านเกาะแรต ม.3 ต.ดอนสัก อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี จำนวน 85 หลังคาเรือน ไม่สามารถออกทะเลได้ นอกจากนั้น สะพานชมทัศนียภาพรอบเกาะถูกกระแสคลื่นลมแรงพลัดถล่มเสียหายอย่างต่อเนื่อง จนส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างหนัก ทำให้ชาวบ้านที่เคยมีรายได้คนละ 1,000 บาท ลดลงเหลือวันละ 200-300 บาท ทำให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ผู้ใหญ่บ้านวอนภาครัฐช่วยจัดหาอาชีพเสริมก่อนชาวบ้านละทิ้งถิ่นฐานไปประกอบอาชีพอื่น
นายฉัตรชัย พงศ์พิชิตชัย ผู้ใหญ่บ้าน ม.3 บ้านเกาะแรต เปิดเผยว่า จากการที่ประชาชนบนเกาะแรตประกอบอาชีพประมง และเลี้ยงปลากะพงในกระชัง และทั้งหมดใช้เรือขนาดเล็กคลื่นลมแรงติดต่อกันไม่สามารถออกทะเลได้จับสัตว์น้ำได้ ทำให้ไม่สามารถหาอาหารที่เป็นปลาขนาดเล็กมาเลี้ยงปลากะพงในกระชัง ทำให้ปลาหยุดการเจริญเติบโต นอกจากนั้น การท่องเที่ยวก็ได้รับผลกระทบหนัก นักท่องเที่ยวเดินทางมาแล้วไม่สามารถเดินรอบเกาะดูโลมาสีชมพู เนื่องตัวสะพานพังขาดเป็นช่วง ต้องใช้เวลาในการดำเนินการซ่อมแซม ขณะนี้ชาวบ้านบนเกาะแรต จำนวนกว่า 300 คน ได้รับความเดือดร้อนหนัก ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นแนะนำอาชีพเสริมให้ชาวบ้านด่วน
