ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดภูเก็ต รวบเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ของภาคใต้ พร้อมของกลางยาบ้าร่วม 2 หมื่นเม็ด ไอซ์กว่า 114 กรัม อาวุธปืน 2 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (14 ก.พ.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.สมาน ชัยณรงค์ และ พ.ต.อ.พินิจ ศิริชัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมคิด บุญรัตน์ ผกก.กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมแถลงผลการจับกุม 3 ผู้ต้องหาเครือข่ายยาเสพติด ประกอบด้วย นายธันวา หรือวา แซ่ขอ อายุ 39 ปี ชาว จ.ภูเก็ต จับกุมได้ที่หน้าห้องเช่าใกล้สี่แยกปฏิพัทธิ์-กระบี่ ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต พร้อมของกลางยาไอซ์ 41.81 กรัม ยาบ้า จำนวน 630 เม็ด อาวุธปืนพกสั้นแบบลูกโม่ ขนาด .38 พร้อมกระสุน จำนวน 16 นัด โดยกล่าวหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ไอซ์ และยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
นายบำรุง หรือดำ ดีแก้ว อายุ 31 ปี ชาว จ.นครสวรรค์ โดยจับได้ที่บริเวณลานจอดรถปฏิพัทธิ์แมนชั่น ตั้งอยู่ใกล้สี่แยกปฏิพัทธิ์-กระบี่ ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต และนายซอละห์ หรือโก๊ะ เพ็งหวัง อายุ 27 ปี ชาว จ.สงขลา จับกุมได้ที่หน้าโรงเรียนคลองพน ต.คลองพน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ พร้อมด้วยของกลางยาบ้า จำนวน 14,492 เม็ด อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม.จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน จำนวน 29 นัด โดยกล่าวหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์ และยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และกล่าวหา นายซอละห์หรือโก๊ะ เพ็งหวัง ว่า มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ
การจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าว สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต ได้ดำเนินการสืบสวนขบวนการค้ายาเสพติดมาอย่างต่อเนื่อง โดยทราบว่าผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ของภาคใต้ โดยเป็นขบวนการที่แบ่งงานกันทำ ซึ่งมีผู้สั่งการคือ นายอุสมาน หรือมัง จินตรา ผู้ต้องขังคดียาเสพติดเรือนจำจังหวัดยะลา ซึ่งจะซื้อขายยาเสพติดจากนายหมู ไม่ทราบชื่อสกุลจริง ชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง โดยจะสั่งยาเสพติดมาจำหน่ายในพื้นที่จังหวัดสงขลา และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ การดำเนินการสั่งยาเสพติด นายอุสมาน หรือมัง จะโทรศัพท์สั่งยาเสพติดจากนายหมู และนายหมู จะเป็นผู้ติดต่อทีมงานขนยาเสพติดจากพื้นที่จังหวัดภูเก็ต คือ นายบำรุง หรือดำ ดีแก้ว เป็นผู้เดินทางไปขนยาเสพติด และนายอุสมาน หรือมัง ติดต่อสั่งการให้นายซอละห์ หรือโก๊ะ เพ็งหวัง เป็นผู้รับยาจากนายบำรุง หรือดำ เพื่อไปจำหน่ายให้แก่ผู้ค้ารายอื่นๆ ในพื้นที่จังหวัดยะลา และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป
โดยเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา นายอุสมาน หรือมัง ได้โทรศัพท์ติดต่อสั่งยาเสพติดจากนายหมู ชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง อยู่ที่ ต.ท่าขี้เหล็ก แนวเขตชายแดนไทยฝั่ง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ในจำนวน 100,000 เม็ด เมื่อได้รับออเดอร์ นายหมู่ ได้ติดต่อให้นายบำรุง หรือดำ ขึ้นไปรับยาเสพติด นายบำรุง หรือดำ ได้ตกลงตอบรับ และเดินทางโดยเครื่องบิน พร้อมด้วย น.ส.อ้อม (นามสมมติ) และนายเฟิร์ส (นามสมมติ) รวม 3 คน เพื่อไปรับยาเสพติดตามคำสั่งของนายหมู เมื่อเดินทางไปถึงจังหวัดเชียงราย ก็พบกับนายหมู และทีมงานของนายหมู คือ นายซอละห์ หรือโก๊ะ เพ็งหวัง โดยได้ทำข้อตกลงเรื่องการว่าจ้าง โดยมีวิธีการกล่าวคือ นายบำรุง หรือดำ จะได้ค่าจ้างเป็นเงิน จำนวน 800,000 บาท แต่จะต้องวางตัวนายเฟิร์ส ไว้เป็นประกันกับนายซอละห์ หรือโก๊ะ เมื่อส่งยาเสพติดเรียบร้อยแล้ว นายเฟิร์ส จะได้รับการปล่อยตัว
และในขณะเดียวกัน นายซอละห์ หรือโก๊ะ ได้สั่งยาเสพติดจากนายหมู เป็นจำนวน 100,000 เม็ด ในราคมมัด (2,000 เม็ด) ละ 100,500 บาท โดยนายหมู จะส่งยาเสพติดให้นายซอละห์ โดยยังไม่มีเงินมัดจำ แต่ต้องมอบบุคคลไว้เป็นประกัน เมื่อชำระเงินแล้วตัวประกันจะได้รับการปล่อยตัว โดยนายซอละห์ ตอบรับตามข้อตกลง และได้มอบ น.ส.นา และ น.ส.ยะห์ ที่พามาด้วยไว้กับนายหมู และได้นัดแนะสถานที่รับยาเสพติด
ต่อมา เวลาประมาณ 04.00 ในวันถัดมา นายหมู่ ได้โทรศัพท์ติดต่อให้นายบำรุง หรือดำ ไปรับยาเสพติดที่หมู่บ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร จังหวัดเชียงราย หลังจากได้นำยาเสพติดมาแล้ว นายบำรุง พร้อมด้วย น.ส.อ้อม (นามสมมติ) ได้นำยาเสพติดมาทางรถโดยสารประจำทาง และทางรถไฟจนมาถึงจังหวัดสงขลา และมอบให้นายซอละห์ หรือโก๊ะ โดยได้รับค่าจ้างเป็นยาบ้า จำนวน 10,000 เม็ด นายบำรุง รับตัวนายเฟิร์ส และเดินทางกลับมาพร้อมยาบ้า โดยได้นำยาบ้าส่วนหนึ่งไปซุกซ่อนไว้ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ และอีกส่วนหนึ่งนำมาจำหน่ายในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ หลังจากจับกุมได้ นำเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดยาบ้าที่ซุกซ่อนไว้ที่จังหวัดกระบี่ และสืบสวนขยายผลจนสามารถจับกุมนายซอละห์ หรือโก๊ะ ได้ในที่สุด
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (14 ก.พ.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.สมาน ชัยณรงค์ และ พ.ต.อ.พินิจ ศิริชัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมคิด บุญรัตน์ ผกก.กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมแถลงผลการจับกุม 3 ผู้ต้องหาเครือข่ายยาเสพติด ประกอบด้วย นายธันวา หรือวา แซ่ขอ อายุ 39 ปี ชาว จ.ภูเก็ต จับกุมได้ที่หน้าห้องเช่าใกล้สี่แยกปฏิพัทธิ์-กระบี่ ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต พร้อมของกลางยาไอซ์ 41.81 กรัม ยาบ้า จำนวน 630 เม็ด อาวุธปืนพกสั้นแบบลูกโม่ ขนาด .38 พร้อมกระสุน จำนวน 16 นัด โดยกล่าวหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ไอซ์ และยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
นายบำรุง หรือดำ ดีแก้ว อายุ 31 ปี ชาว จ.นครสวรรค์ โดยจับได้ที่บริเวณลานจอดรถปฏิพัทธิ์แมนชั่น ตั้งอยู่ใกล้สี่แยกปฏิพัทธิ์-กระบี่ ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต และนายซอละห์ หรือโก๊ะ เพ็งหวัง อายุ 27 ปี ชาว จ.สงขลา จับกุมได้ที่หน้าโรงเรียนคลองพน ต.คลองพน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ พร้อมด้วยของกลางยาบ้า จำนวน 14,492 เม็ด อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม.จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน จำนวน 29 นัด โดยกล่าวหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์ และยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และกล่าวหา นายซอละห์หรือโก๊ะ เพ็งหวัง ว่า มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ
การจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าว สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต ได้ดำเนินการสืบสวนขบวนการค้ายาเสพติดมาอย่างต่อเนื่อง โดยทราบว่าผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ของภาคใต้ โดยเป็นขบวนการที่แบ่งงานกันทำ ซึ่งมีผู้สั่งการคือ นายอุสมาน หรือมัง จินตรา ผู้ต้องขังคดียาเสพติดเรือนจำจังหวัดยะลา ซึ่งจะซื้อขายยาเสพติดจากนายหมู ไม่ทราบชื่อสกุลจริง ชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง โดยจะสั่งยาเสพติดมาจำหน่ายในพื้นที่จังหวัดสงขลา และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ การดำเนินการสั่งยาเสพติด นายอุสมาน หรือมัง จะโทรศัพท์สั่งยาเสพติดจากนายหมู และนายหมู จะเป็นผู้ติดต่อทีมงานขนยาเสพติดจากพื้นที่จังหวัดภูเก็ต คือ นายบำรุง หรือดำ ดีแก้ว เป็นผู้เดินทางไปขนยาเสพติด และนายอุสมาน หรือมัง ติดต่อสั่งการให้นายซอละห์ หรือโก๊ะ เพ็งหวัง เป็นผู้รับยาจากนายบำรุง หรือดำ เพื่อไปจำหน่ายให้แก่ผู้ค้ารายอื่นๆ ในพื้นที่จังหวัดยะลา และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป
โดยเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา นายอุสมาน หรือมัง ได้โทรศัพท์ติดต่อสั่งยาเสพติดจากนายหมู ชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง อยู่ที่ ต.ท่าขี้เหล็ก แนวเขตชายแดนไทยฝั่ง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ในจำนวน 100,000 เม็ด เมื่อได้รับออเดอร์ นายหมู่ ได้ติดต่อให้นายบำรุง หรือดำ ขึ้นไปรับยาเสพติด นายบำรุง หรือดำ ได้ตกลงตอบรับ และเดินทางโดยเครื่องบิน พร้อมด้วย น.ส.อ้อม (นามสมมติ) และนายเฟิร์ส (นามสมมติ) รวม 3 คน เพื่อไปรับยาเสพติดตามคำสั่งของนายหมู เมื่อเดินทางไปถึงจังหวัดเชียงราย ก็พบกับนายหมู และทีมงานของนายหมู คือ นายซอละห์ หรือโก๊ะ เพ็งหวัง โดยได้ทำข้อตกลงเรื่องการว่าจ้าง โดยมีวิธีการกล่าวคือ นายบำรุง หรือดำ จะได้ค่าจ้างเป็นเงิน จำนวน 800,000 บาท แต่จะต้องวางตัวนายเฟิร์ส ไว้เป็นประกันกับนายซอละห์ หรือโก๊ะ เมื่อส่งยาเสพติดเรียบร้อยแล้ว นายเฟิร์ส จะได้รับการปล่อยตัว
และในขณะเดียวกัน นายซอละห์ หรือโก๊ะ ได้สั่งยาเสพติดจากนายหมู เป็นจำนวน 100,000 เม็ด ในราคมมัด (2,000 เม็ด) ละ 100,500 บาท โดยนายหมู จะส่งยาเสพติดให้นายซอละห์ โดยยังไม่มีเงินมัดจำ แต่ต้องมอบบุคคลไว้เป็นประกัน เมื่อชำระเงินแล้วตัวประกันจะได้รับการปล่อยตัว โดยนายซอละห์ ตอบรับตามข้อตกลง และได้มอบ น.ส.นา และ น.ส.ยะห์ ที่พามาด้วยไว้กับนายหมู และได้นัดแนะสถานที่รับยาเสพติด
ต่อมา เวลาประมาณ 04.00 ในวันถัดมา นายหมู่ ได้โทรศัพท์ติดต่อให้นายบำรุง หรือดำ ไปรับยาเสพติดที่หมู่บ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร จังหวัดเชียงราย หลังจากได้นำยาเสพติดมาแล้ว นายบำรุง พร้อมด้วย น.ส.อ้อม (นามสมมติ) ได้นำยาเสพติดมาทางรถโดยสารประจำทาง และทางรถไฟจนมาถึงจังหวัดสงขลา และมอบให้นายซอละห์ หรือโก๊ะ โดยได้รับค่าจ้างเป็นยาบ้า จำนวน 10,000 เม็ด นายบำรุง รับตัวนายเฟิร์ส และเดินทางกลับมาพร้อมยาบ้า โดยได้นำยาบ้าส่วนหนึ่งไปซุกซ่อนไว้ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ และอีกส่วนหนึ่งนำมาจำหน่ายในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ หลังจากจับกุมได้ นำเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดยาบ้าที่ซุกซ่อนไว้ที่จังหวัดกระบี่ และสืบสวนขยายผลจนสามารถจับกุมนายซอละห์ หรือโก๊ะ ได้ในที่สุด