ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - “โรงเจจี่เต็กลิ้ม นครปฐม” ออกโรงแจงไม่เคยนำ “เจ้าแม่ลิ้มโกวเนี้ยว” ไปร่วมแห่หารายได้กับมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งที่กรุงเทพฯ และไม่เกี่ยวข้องต่อกรณีร้องเรียนของคนในตระกูล “คณานุรักษ์” ที่ระบุมีการแสวงประโยชน์จากความเปลี่ยนแปลงในพิธีลุยไฟของ “เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ปัตตานี”
วันนี้ (1 ก.พ.) น.ส.พิมพาวรรณ อูนากูล ในฐานะได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการโรงเจจี่เต็กลิ้ม จ.นครปฐม ได้เข้าชี้แจ้งต่อ “MGR Online ภาคใต้” ว่า กรณีมีข่าวการร้องเรียนให้มีการจัดระเบียบผู้แสวงหาผลประโยชน์จากกิจกรรมของศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว จ.ปัตตานี ต่อหน่วยงานรัฐรวมเวลากว่า 3 ปี ไม่มีความคืบหน้า ซึ่ง 1 ในจำนวน 5 ข้อร้องเรียนระบุว่า มีการนำรูปเหมือนเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวจาก จ.นครปฐม ไปที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กรุงเทพฯ ไปแห่ให้ชาวไทยเชื้อสายจีนที่มีจิตศรัทธาในกรุงเทพฯ กราบไหว้ และเรี่ยไรเงิน โดยผู้ที่มีจิตศรัทธาเข้าใจว่าเป็นการกระทำของกรรมการศาลเจ้าเล่งจูเกียง จ.ปัตตานี
น.ส.พิมพาวรรณ กล่าวถึงกรณีที่เป็นข่าว และพาดพิงถึงโรงเจจี่เต็กลิ้ม นครปฐม ตามที่เป็นข่าวไปเมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น ตนขอยืนยันว่า ทางคณะกรรมการโรงเจจี่เต็กลิ้ม นครปฐม ซึ่งเป็นที่ประดิษฐ์องค์เจ้าแม่ลิ้มโกวเนี้ยว ตามคำเรียกขานของชาว จ.นครปฐม ไม่เคยมีความเกี่ยวข้องต่อการเปลี่ยนแปลงพิธีลุยไฟในงานฉลองเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว จ.ปัตตานี และไม่เคยนำเจ้าแม่ลิ้มโกวเนี้ยวออกไปร่วมแห่กับมูลนิธิป่อเต็กตึ้งที่กรุงเทพฯ แต่ในทุกๆ ปีจะนำเจ้าแม่ออกจากโรงเจครั้งเดียว ในงานประจำปีฉลองสมโภชเจ้าแม่ลิ้มโกวเนี้ยวของโรงเจจี่เต็กลิ้มเท่านั้น
“โดยในปี 2559 นี้ จะมีงานสมโภชเจ้าแม่ลิ้มโกวเนี้ยว ระหว่างวันที่ 8-16 ก.พ.ที่จะถึงนี้ ซึ่งในวันที่ 10 ก.พ.กำหนดจะมีพิธีอัญเชิญเทวรูปศักดิ์สิทธิ์ 12 พระองค์ขึ้นประทับเกี้ยว วันที่ 11 ก.พ.ก็จะมีพิธีแห่เกี้ยวรอบตลาดเมืองนครปฐม อีกทั้งการจัดงานสมโภชเจ้าแม่ลิ้มโกวเนี้ยวในปีนี้จะมีการเชิญ นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ร่วมเป็นประธานในงานพิธีด้วย” น.ส.พิมพาวรรณ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับข่าวที่เป็นต้นเหตุให้คณะกรรมการโรงเจจี่เต็กลิ้ม นครปฐม ต้องออกมาชี้แจงครั้งนี้ได้รายงานใน “MGR Online ภาคใต้” เมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยการร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวของ นายสุทธิพันธ์ คณานุรักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม (พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา) อดีตสมาชิกสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เนื่องจากเห็นความไม่ชอบมาพากลของการเปลี่ยนแปลงการจัดพิธีลุยไฟในงานสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว จ.ปัตตานี
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมา คณะกรรมการศาลเจ้าเล่งจูเกียง ปัตตานี ได้ทำการเปลี่ยนแปลงพิธีอัญเชิญเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว พระในศาลเจ้าเล่งจูเกียง พระประจำตระกูลคณานุรักษ์ และพระที่บ้านกงสีตระกูลคณานุรักษ์ ซึ่งแต่เดิมที่สืบทอดมาถึง 125 ปี จะทำการแห่พระในเวลา 11.00-12.00 น. แต่คณะกรรมการศาลเจ้าได้เปลี่ยนการแห่พระเป็นเวลา 13.30-14.30 น. การเปลี่ยนแปลงเวลาการแห่พระ และเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวในครั้งนี้จึงเกิดผลกระทบขึ้น 5 ข้อดังนี้
1.เป็นการทำลายประเพณีโบราณที่ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งถือปฏิบัติกันมานานถึง 125 ปี 2.มีจิตศรัทธาต่อองค์เจ้าแม่ฯ และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ ซึ่งเคยมาร่วมพิธีแห่พระ และเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสายการบินได้ทัน ไม่สามารถมาร่วมพิธีแห่พระได้เหมือนในอดีต เพราะมีการเปลี่ยนเวลาจากช่วงเช้าเป็นช่วงบ่าย นอกจากไม่ทันเที่ยวบินแล้ว ยังเป็นกังวลต่อความไม่ปลอดภัยในการเดินทาง 3.ผู้หามพระ จากการที่ไม่ได้หลับนอน และเหน็ดเหนื่อยจากการแห่พระในตลาดปัตตานี ต้องอดอาหารเที่ยง เหนื่อยล้า เมื่อเดินเข้าลุยกองไฟหลายคนมีอาการเข่าอ่อน อาจจะเกิดอันตรายได้
4.เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวบนถนนสายต่างๆ ต้องเพิ่มภารกิจจากการยืดเวลาออกไปจนเกินกำลังของเจ้าหน้าที่ และ 5.มีการนำรูปเหมือนเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวจาก จ.นครปฐม ไปที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งกรุงเทพฯ ไปแห่ให้ชาวไทยเชื้อสายจีนที่มีจิตศรัทธาในกรุงเทพฯ กราบไหว้ และเรี่ยไรเงิน โดยผู้ที่มีจิตศรัทธาเข้าใจว่าเป็นการกระทำของกรรมการศาลเจ้าเล่งจูเกียง จ.ปัตตานี ซึ่งจากผลกระทบข้อสุดท้ายนี่เองที่เป็นเหตุให้ทางคณะกรรมการโรงเจจี่เต็กลิ้ม นครปฐม ได้ออกมาชี้แจง
อ่านข่าวเกี่ยวเนื่อง
- กรรมการศาล “เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว” ร้อง! หน่วยงานรัฐ 3 ปี จัดระเบียบผู้หาผลประโยชน์ไม่คืบ
