xs
xsm
sm
md
lg

เงียบเหงา! โครงการรับซื้อยางรัฐ ผู้ตรวจฯ แนะ ปชส.ให้มากขึ้น ด้านชาวสวนเผยข้อจำกัดการขายเยอะ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ตรัง - ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตรวจจุดรับซื้อยางของรัฐบาลในวันที่ 2 พบยังมีชาวสวนยางนำยางมาขายน้อย แนะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรรับรู้มากกว่านี้ ด้านเกษตรกรเผยข้อจำกัดการขายมากเกินไป

วันนี้ (26 ม.ค.) ที่จุดรับซื้อยางพาราบ้านไสปุด หมู่ที่ 6 ต.บ้านควน อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งเป็นจุดรับซื้อที่รัฐบาลได้เปิดรับซื้อตามโครงการส่งเสริมการใช้ยางในหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งเปิดรับซื้อเป็นวันที่ 2 โดยมี นายสุรจิตต์ อินทรชิต ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เขต 6, 7 พร้อมด้วย พ.อ.ธวัชชัย รักอาชีพ รอง ผอ.รมน.จ.ตรัง และเจ้าหน้าที่ทหารจากกองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 15 ค่ายพระยารัษฎานุประดิษฐ์ ได้ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบความเรียบร้อยของการรับซื้อในวันที่ 2
 

 
โดย นายสุรจิตต์ อินทรชิต ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เขต 6, 7 กล่าวว่า โดยภาพรวมทั้งประเทศในการเปิดรับซื้อยางในขณะนี้ ในส่วนของเจ้าหน้าที่ของรัฐมีความพร้อมในทุกจุดแล้ว โดยที่ผ่านมา มีเกษตรกรนำยางมาขายน้อยอยู่ โดยพบปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้คือ ฝนตก ลมกระโชกแรง เกษตรกรไม่สามารถกรีดยางได้ และชาวบ้านส่วนใหญ่ยังรับรู้ไม่ทั่วถึง ซึ่งยังมีเกษตรกรบางคนเก็บยางสต๊อกไว้ยังไม่ขาย เนื่องจากยังคงมีเวลาเหลืออีกหลายวัน คือ ระหว่างวันที่ 25 ม.ค.-30 มิ.ย.59 โดยจำกัดการซื้ออยู่ที่ 150 กิโลกรัมต่อ 1 รายเท่านั้น โดยขอฝากไปยังทุกภาคส่วนให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องเกษตรรับทราบถึงขั้นตอนการรับซื้อ 

สำหรับวันนี้เป็นวันที่ 2 ในการเปิดรับซื่อตามโครงการฯ ซึ่งคาดว่าทั่วประเทศจะเปิดรับซื้อได้ครบทุกจุด สำหรับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้แล้วก็สามารถนำยางพร้อมกับหลักฐานไปขายที่จุดรับซื้อได้เลย รอรับเงินจากธนาคาร ธกส.ได้ในอีก 2 วัน

ด้านนายสุภาค อั้นทอง อายุ 62ปี อยู่บ้านเลขที่ 108 ม.1 ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งวันนี้ได้นำน้ำยางสดมาขายที่จุดรับซื้อแห่งนี้เป็นวันที่ 2 โดยวันนี้สามารถขายน้ำยางสดได้ 26 กิโลกรัม ในราคากิโลกรัมละ 43 บาท ส่วนเมื่อวานนี้ขายได้ 20 กิโลกรัม โดยวันต่อไปหากกรีดยางอีกก็จะมาขายที่นี้อีกจนกว่าจะครบ 150 กิโลกรัม
 

 
อย่างไรก็ตาม แม้รัฐบาลจะประกันราคายางแผ่นให้อยู่ที่กิโลกรัมละ 45 บาท น้ำยางสด กิโลกรัมละ 43 บาท ตามโครงการส่งเสริมการใช้ยางในหน่วยงานภาครัฐ แต่ก็ยังมีเกษตรกรชาวสวนยางหลายร้อยรายที่ยังคงขายยางแผ่นดิบให้แก่จุดรับซื้อยางของพ่อค้าคนกลาง เนื่องจากติดปัญหาหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นทะเบียนเกษตรกร การนำหลักฐานต่างๆ ทั้งบัตรประจำตัวประชาชนและบัตรเกษตรกรชาวสวนยาง กยท.หรือหลักฐานที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ต่อ กยท. โดยปัญหาสำคัญคือ จะได้รับเงินในอีก 2-3 วันข้างหน้าหลังจากขายยาง อีกทั้งยังจำกัดการขายให้เพียงแค่รายละ 150 กิโลกรัมเท่านั้น ทำให้เกษตรหลายรายเบื่อหน่ายต่อข้อกำหนดดังกล่าว จนไม่นำยางมาขายให้แก่จุดรับซื้อยางของรัฐบาลดังกล่าว

ขณะเดียวกัน นายรัตน์ ศรีกระจ่าง อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59/4 ถ.บางรัก ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง อาชีพกรีดยาง ทำยางแผ่น มีเนื้อที่ปลูกยางพารา 1.5 ไร่ ไม่สามารถนำยางแผ่นไปขายที่จุดรับซื้อที่ทางภาครัฐจัดหาไว้ได้ เนื่องจากผู้ที่จะขึ้นทะเบียนเป็นเกษตรกรชาวสวนยางได้ตามหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขแล้ว คำว่า “สวนยาง” หมายความว่า ที่ดินปลูกต้นยางเนื้อที่ไม่น้อยกว่า 2 ไร่ แต่ละไร่มีต้นยางปลูกไม่น้อยกว่า 10 ต้น และโดยเฉลี่ยไม่น้อยกว่าไร่ละ 25 ต้น ซึ่ง นายรัตน์ ศรีกระจ่าง มีสวนยางเพียง 1.5 ไร่ จึงจำเป็นต้องนำยางแผ่นไปขายพ่อค้าคนจีนในตลาดเหมือนที่เคยขายอยู่ทุกครั้ง อยากฝากถึงตรงนี้ด้วย ซึ่งตนเองก็อยากจะขายยางแผ่นกิโลกรัมละ 45 บาทที่ประกาศไว้
 
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น