ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สาวขายลูกชิ้นทอดในหาดใหญ่ซวย ถูกหลานเขยนำบัตรเอทีเอ็ม และบัญชีธนาคารไปหลอกโอนเงินจากผู้เสียหายที่ล่อลวงเหยื่อผ่านเฟซบุ๊ก โดยการใช้รูปภาพเป็นสาวเซ็กซี่ และขายสินค้า สูญเงินตั้งแต่หลักพันถึงหลักแสน
วันนี้ (21 ม.ค.) ที่ สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้มี น.ส.อัชญา สิงหะตะโน อายุ 29 ปี แม่ค้าขายลูกชิ้นทอดใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้เข้าแจ้งความ และลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน หลังจากที่ถูกหลานเขยหลอกยืมบัตรเอทีเอ็ม และบัญชีธนาคารไปหลอกลวงผู้อื่นที่ติดต่อกันทางเฟซบุ๊กให้โอนเงินมาเข้าบัญชีของตน กระทั่งถูก สน.ห้วยขวาง มีหมายเรียกให้ไปพบตัวในวันนี้ ซึ่งตนตกใจมากเพราะไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
น.ส.อัชญา เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เมื่อช่วงเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว นายทิวา บุรินทราภิบาล ซึ่งเป็นหลานเขย ได้มาขอยืมบัตรเอทีเอ็ม พร้อมกับหมายเลขบัญชีของตนไป อ้างว่าทางญาติพี่น้องจะโอนเงินมาให้ ซึ่งตนก็ไม่ได้ติดใจอะไรเพราะในบัญชีก็ไม่มีเงินอยู่ และเคยขอบัตรเอทีเอ็มคืน แต่นายทิวา อ้างว่าลืมทุกครั้ง ซึ่งตนก็ไม่สนใจประกอบกับไม่ได้ติดต่อทำธุรกรรมทางการเงินกับธนาคารจึงวางเฉยเรื่อยมา
กระทั่งเมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้มีหมายเรียกจากทาง สน.ห้วยขวาง กรุงเทพฯ ให้ไปพบร้อยเวร เนื่องจากมีผู้มาแจ้งความว่าถูกหลอกให้โอนเงินเข้าบัญชีของตน ทั้งที่ตนไม่รู้เรื่อง และได้รับความเดือดร้อน เพราะตัวเองก็หาเช้ากินค่ำขายลูกชิ้นไม้ละ 5 บาท ไม่มีปัญญาเดินทางขึ้นกรุงเทพฯ จึงได้เข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน โดยทาง พ.ต.อ.สุรพงษ์ กิตติธิรางกูร พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ หัวหน้างานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ รับเรื่องไว้
น.ส.อัชญา บอกว่า จากการติดต่อพูดคุยกับผู้เสียหายหลายรายที่โอนเงินเข้าบัญชีตน ทราบว่า ถูกหลอกหลายรูปแบบซึ่งติดต่อผ่านทางเฟซบุ๊ก บางรายถูกหลอกให้ซื้อโทรศัพท์มือถือ และโอนเงินให้เกือบ 7 หมื่นบาท บางรายก็ใช้วิธีนำรูปสาวที่มีรูปร่างหน้าตาเซ็กซี่มาขอเป็นเพื่อน และพูดคุยก่อนที่จะขอเงินอ้างว่าเดือดร้อนพ่อแม่ไม่สบายต้องการเงินด่วน ตั้งแต่หลักพัน ถึงหลักหมื่นบาท ส่วน นายทิวา น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องต่อแก๊งมิจฉาชีพกลุ่มนี้ด้วย เนื่องจากเป็นผู้นำบัตรเอทีเอ็ม และหมายเลขบัญชีธนาคารของตนไปใช้ แต่ตนไม่มีส่วนรู้เห็น หรือเกี่ยวข้องแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ทาง พ.ต.อ.สุรพงษ์ กิตติธิรางกูร พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ หัวหน้างานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ เปิดเผยว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียนสำหรับผู้ที่ติดต่อกันผ่านสื่อออนไลน์ โดยที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริง ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบ เบื้องต้น ทาง สภ.หาดใหญ่ ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และจะประสานข้อมูลกับทาง สน.ห้วยขวาง เพื่อดำเนินการทางคดีต่อไป