ศูนย์ข่าวภูเก็ต - คนขับเรือสปีดโบตมรณะชนนักท่องเที่ยวเสียชีวิตที่จังหวัดกระบี่ เข้ามอบแล้วที่ สภ.ถลาง จ.ภูเก็ต อ้างไม่เห็นนักท่องเที่ยวกำลังดำน้ำอยู่ใต้ทะเล
เมื่อเวลา 17.30 น.วันนี้ (5 ม.ค.) นางวัชรา ผสมผล เจ้าของเรือสปีดโบต โซคูลวัน ของ บริษัททัวร์ อเมทซิ่ง แคดูอิ่ง กรุ๊ป นำตัว นายโยธิน สืบศักดิ์ อายุ 29 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช คนขับเรือสปีดโบตลำที่ชนนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสเสียชีวิต เหตุเกิดวันนี้ (5 ม.ค.) บริเวณทิศใต้ เกาะปอดะ อ.เมือง จ.กระบี่ เข้ามอบตัวต่อ พ.ต.อ.บุญเลิศ อ่อนกลาง พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สภ.ถลาง จ.ภูเก็ต เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา
หลัง นายโยธิน สืบศักดิ์ นำเรือลำที่เกิดเหตุเดินทางกลับมาถึงยังท่าเทียบเรืออ่าวปอ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยมี พ.ต.ท.ปัญญา ชัยชนะ สารวัตรตำรวจน้ำภูเก็ต ร่วมสอบปากคำ ในขณะเดียวกันยังได้ควบคุมตัว นาย MALING EK ลูกเรือชาวพม่ามาสอบปากคำ รวมถึงสอบปากคำพยานซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จำนวน 9 คน ที่เดินทางกลับมากับเรือลำดังกล่าว หลังจากไปท่องเที่ยวตามเกาะแก่งต่างๆ ของ จ.กระบี่ด้วย
นายโยธิน สืบศักดิ์ คนขับเรือได้กล่าวด้วยสีหน้าที่เศร้าสร้อย ว่า ในช่วงที่เกิดเหตุได้นำเรือออกมาจากจุดจอดเพื่อนำนักท่องเที่ยวกลับภูเก็ต และเส้นทางนั้นก็เป็นช่องสำหรับเดินเรือ โดยไม่เห็นว่ามีนักท่องเที่ยวอยู่ใต้น้ำ แต่เห็นนักท่องเที่ยวผู้ชายคนหนึ่งโบกมืออยู่จึงขับหลบ และเมื่อทราบว่าเรือชนนักท่องเที่ยวก็ได้ถอยเรือกลับมา และเห็นว่ามีเรือยางคาดว่าเป็นเรือของอุทยานฯ ได้เข้าทำการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่โดนเรือชนแล้ว ซึ่งตอนแรกก็ไม่รู้ว่าบาดเจ็บมากน้อยเพียงใด ซึ่งตนไม่มีเจตนาที่จะหลบหนี จึงแจ้งไปยังเรือลำดังกล่าวว่า ขอนำนักท่องเที่ยวที่โดยสารอยู่บนเรือกลับมาส่งยังเกาะภูเก็ตก่อน
ขณะเดียวกัน ก็ได้แจ้งให้เจ้าของเรือทราบ โดยเจ้าของเรือบอกว่าให้นำเรือ และนักท่องเที่ยวกลับมาก่อน โดยเจ้าของเรือได้มีการประสานกับทางตำรวจกระบี่ เพื่อจะเข้ามอบตัว และรับทราบข้อกล่าวหาหลังจากนำนักท่องเที่ยวมาส่งแล้ว และเมื่อมาถึงท่าเทียบเรืออ่าวปอก็ไม่ได้คิดหนี โดยทางเจ้าของเรือแจ้งว่า ให้กลับบ้านไปก่อนเพราะได้ติดต่อประสานงานกับทางตำรวจเพื่อเข้ามอบตัวแล้ว
นายโยธิน ยังได้กล่าวยืนยันว่า ไม่ได้คิดหลบหนี เพราะได้แจ้งต่อเจ้าของเรือซึ่งบอกว่าได้ประสานกับทางตำรวจแล้ว ไม่มีเจตนาที่จะให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว และมองไม่เห็นนักท่องเที่ยวผู้หญิงที่อยู่ใต้น้ำจริงๆ ประกอบกับจุดดังกล่าวเป็นเส้นทางเดินเรืออยู่แล้ว และน้ำทะเลที่ขึ้นสูง ซึ่งที่ผ่านมา ก็ใช้เส้นทางดังกล่าวเดินเรือมาตลอด และในบริเวณนั้นก็ไม่มีทุ่นแบ่งกั้นเขตระหว่างเรือกับการเล่นน้ำ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง และไม่ต้องการให้เกิดเลย จึงขอแสดงความเสียใจต่อญาติของผู้เสียชีวิตด้วย
อย่างไรก็ตาม ในช่วงค่ำวันเดียวกันนี้ทางพนักงานสอบสวน สภ. กระบี่ ก็จะมารับตัว คนขับเรือ พร้อมทั้งสอบปากคำนักท่องเที่ยวที่โดยสารมากับเรือดังกล่าวด้วย