ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต รวบชาวลัตเวีย ขโมยนาฬิกาหรูในศูนย์การค้าดัง มูลค่ากว่า 2.4 ล้านบาท สารภาพก่อเหตุจริงเห็นพนักงานขายเผลอ
เมื่อเวลา 19.30 น. วานนี้ (4 ม.ค.) ที่ห้องประชุมชั้น 1 ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต (ส.ทท.2 กก.5 บก.ทท.) พ.ต.อ.ชูสวัสดิ์ จันทร์โรจนกิจ ผกก.5 บก.ทท. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมคิด บุญรัตน์ ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.พิสิษฐ์ ชื่นเพ็ชร รอง ผกก.สส.สภ.วิชิต พ.ต.ท.มิลิน เพียรช่าง พ.ต.ท.บัณฑิต ขาวสุธรรม และ พ.ต.ท.นิคม เทียนห้าว รอง ผกก.5 บก.ทท. ว่าที่ พ.ต.ท.อุรัมพร ขุนเดชสัมฤทธิ์ สว.ส.ทท.2 กก.5 บก.ทท. ร.ต.อ.เอกชัย ศิริ รอง สว.ส.ทท.2 และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นาย Kristaps Kosogova อายุ 29 ปี สัญชาติลัตเวีย พร้อมของกลางนาฬิกายี่ห้อ PIAGET จำนวน 2 เรือน ราคา 1,197,500 บาท และ 1,288,980 บาท พร้อม กระเป๋าสะพายของสตรียี่ห้อ AIGNER จำนวน 1 ใบ ราคา 10,500 บาท รวมมูลค่ากว่า 2,496,980 บาท โดยสามารถจับกุมได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต
ว่าที่ พ.ต.ท.อุรัมพร ขุนเดชสัมฤทธิ์ สว.ส.ทท.2 กก.5 บก.ทท. กล่าวถึงการจับกุมครั้งนี้ว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 16.37 น. วันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวได้รับแจ้งจากร้านจำหน่ายนาฬิกาภายในศูนย์การค้าแห่งหนึ่งในเขตตัวเมืองภูเก็ต ว่า ได้มีคนร้ายเป็นชาวต่างชาติขโมยนาฬิกา และกระเป๋าไปจากร้าน ความเสียหายกว่า 2 ล้านบาท จากนั้นตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ตได้นำกำลังไปตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ภายในร้านจำหน่ายนาฬิกา และภายในศูนย์การค้าดังกล่าว
และสืบสวนจนกระทั่งทราบว่า คนร้ายคือ นาย Kristaps Kosogova อายุ 29 ปี สัญชาติลัตเวีย ซึ่งพักอาศัยอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต จึงนำกำลังไปตรวจสอบ และเฝ้าดู จนกระทั่งพบ นาย Kristaps Kosogova กำลังถือกระเป๋าเดินทางเพื่อเตรียมตัวเช็กเอาต์ออกจากโรงแรมที่พัก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัว และขอตรวจค้น ปรากฏว่า พบนาฬิกาทั้ง 2 เรือน และกระเป๋าซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าเดินทางของนักท่องเที่ยวคนดังกล่าว
จากการสอบ นาย Kristaps Kosogova บอกว่า ตนเองได้เดินทางมาจากประเทศลัตเวีย เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.2558 เพื่อมาท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ต โดยก่อนเกิดเหตุตนเอง และเพื่อนสาวได้เดินทางมาเที่ยวที่ศูนย์การค้าดังกล่าว จากนั้นได้เดินไปดูนาฬิกาที่วางขายไว้ในตู้โชว์ และได้ขอพนักงานขายทดลองใส่นาฬิกาหลายเรือน ระหว่างที่ทดลองใส่นาฬิกาได้สังเกตเห็นพนักงานขายไม่ล็อกลิ้นชักเก็บนาฬิกา
จากนั้นได้คืนนาฬิกาให้แก่พนักงานขาย และเดินไปดูสินค้าอื่นๆ ก่อน จากนั้นได้วกกลับมาที่ร้านขายนาฬิกาอีกครั้ง และเห็นพนักงานไม่อยู่จึงได้ฉวยโอกาสเข้าขโมยนาฬิกา จำนวน 2 เรือน และเดินไปขโมยกระเป๋าแบบสตรีอีก 1 ใบ ก่อนที่จะหลบหนีกลับโรงแรมจนถูกเจ้าหน้าที่จับได้ในที่สุด โดยยอมรับอีกว่า นาฬิกา 2 เรือนที่ขโมยได้จะเอาไว้ใช้เอง ส่วนกระเป๋าจะให้เพื่อนสาว
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ฯได้แจ้งข้อกล่าวหาลักทรัพย์ของผู้อื่นหรือรับของโจร ในเบื้องต้นรับสารภาพข้อกล่าวหา พร้อมได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.วิชิต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป