ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ยังใช้วี่แววลูกเรือชาวพม่าสูญหาย หลังเกิดเหตุเรือบรรทุกไม้ล่มกลางทะเลอันดามัน ห่างจากเกาะภูเก็ต 110 ไมล์ทะเล ขณะที่ ทัพเรือภาคที่ 3 ใช้เครื่องบินบินลาดตระเวนบินต่อเนื่อง เผยพบวัตถุสีส้มลอยอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุ
จากกรณีที่ทัพเรือภาคที่ 3 นำโดย นาวาเอกพงศ์จักร อุไรมาลย์ ผู้บังคับหมวดบินเฉพาะกิจทัพเรือภาคที่ 3 ได้นำเครื่องบินแบบดอร์เนียล บินค้นหาผู้สูญหายจากเหตุเรือบรรทุกไม้ของชาวพม่า ซึ่งถูกคลื่นซัดอับปางที่บริเวณละติจูด 7 องศา 36 ลิปดาเหนือ ลองจิจูด 96 องศา 36 ลิปดาตะวันออก ห่างจากเกาะภูเก็ตประมาณ 110 ไมล์ทะเล ลูกเรือสูญหายประมาณ 8 คน หลังได้รับแจ้งประสานขอความช่วยเหลือจากตำรวจน้ำภูเก็ต และนายประสงค์ ซึ่งเป็นเพื่อนกับเจ้าของเรือลำที่เกิดเหตุเมื่อเวลา 17.17 น. วันที่ 29 ธ.ค.2558 ที่ผ่านมา
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (30 ธ.ค.) นาวาเอกพงศ์จักร อุไรมาลย์ ผู้บังคับหมวดบินเฉพาะกิจทัพเรือภาคที่ 3 กล่าวว่า หลังจากที่ได้นำเครื่องบินขึ้นบินลาดตระเวน นานกว่า 4 ชั่วโมง พบวัตถุสีส้มลอยอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งคาดว่าจะเป็นวัตถุของเรือลำที่แตก แต่เนื่องจากเครื่องบินลาดตระเวนไม่สามารถบินลงต่ำเพื่อตรวจดูอย่างละเอียดได้ จึงได้แจ้งไปยังเรือหลวงสายบุรีให้เข้าค้นหาบริเวณนั้น ซึ่งหากพบลูกเรือก็สามารถช่วยเหลือได้ทันที โดยทัพเรือภาคที่ 3 จะยังคงทำการค้นหาต่อไป เนื่องจากยังไม่ทราบชะตากรรมลูกเรือทั้งหมดสำหรับเรือลำดังกล่าว ชื่อ Aung Chat Sar. ยาว 89 ฟุต กว้าง 18 ฟุต เป็นเรือไม้ มีลูกเรือ 8 คน
จากกรณีที่ทัพเรือภาคที่ 3 นำโดย นาวาเอกพงศ์จักร อุไรมาลย์ ผู้บังคับหมวดบินเฉพาะกิจทัพเรือภาคที่ 3 ได้นำเครื่องบินแบบดอร์เนียล บินค้นหาผู้สูญหายจากเหตุเรือบรรทุกไม้ของชาวพม่า ซึ่งถูกคลื่นซัดอับปางที่บริเวณละติจูด 7 องศา 36 ลิปดาเหนือ ลองจิจูด 96 องศา 36 ลิปดาตะวันออก ห่างจากเกาะภูเก็ตประมาณ 110 ไมล์ทะเล ลูกเรือสูญหายประมาณ 8 คน หลังได้รับแจ้งประสานขอความช่วยเหลือจากตำรวจน้ำภูเก็ต และนายประสงค์ ซึ่งเป็นเพื่อนกับเจ้าของเรือลำที่เกิดเหตุเมื่อเวลา 17.17 น. วันที่ 29 ธ.ค.2558 ที่ผ่านมา
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (30 ธ.ค.) นาวาเอกพงศ์จักร อุไรมาลย์ ผู้บังคับหมวดบินเฉพาะกิจทัพเรือภาคที่ 3 กล่าวว่า หลังจากที่ได้นำเครื่องบินขึ้นบินลาดตระเวน นานกว่า 4 ชั่วโมง พบวัตถุสีส้มลอยอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งคาดว่าจะเป็นวัตถุของเรือลำที่แตก แต่เนื่องจากเครื่องบินลาดตระเวนไม่สามารถบินลงต่ำเพื่อตรวจดูอย่างละเอียดได้ จึงได้แจ้งไปยังเรือหลวงสายบุรีให้เข้าค้นหาบริเวณนั้น ซึ่งหากพบลูกเรือก็สามารถช่วยเหลือได้ทันที โดยทัพเรือภาคที่ 3 จะยังคงทำการค้นหาต่อไป เนื่องจากยังไม่ทราบชะตากรรมลูกเรือทั้งหมดสำหรับเรือลำดังกล่าว ชื่อ Aung Chat Sar. ยาว 89 ฟุต กว้าง 18 ฟุต เป็นเรือไม้ มีลูกเรือ 8 คน