สสจ.ภูเก็ตจับกุมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ผิดกฎหมาย ขณะตรวจสุขภาพพนักงานของห้างดังในภูเก็ต

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เจ้าหน้าที่ฝ่ายคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต จับกุมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการตรวจสุขภาพประจำปีให้แก่พนักงานห้างแห่งหนึ่งโดยผิดกฎหมาย นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต แจ้งความดำเนินคดีความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล 2541 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับ 30,000-60,000 บาท

เมื่อเวลา 16.30 น.วันนี้ (24 ธ.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต นายแพทย์บัญชา ค้าของ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ฝ่ายคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 กับหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ผิดกฎหมาย ซึ่งได้ออกหน่วยให้บริการตรวจสุขภาพประจำปี แก่พนักงานห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขามหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ถ.เทพกระษัตรี ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต โดยไม่มีใบอนุญาตประกอบสถานพยาบาล และไม่มีใบประกอบวิชาชีพใดๆ มีผู้ร่วมกระทำความผิด จำนวน 5 คน

นายแพทย์บัญชา กล่าวถึงการเข้าตรวจสอบจับกุมดังกล่าวว่า สืบเนื่องจากวันนี้ (24 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ฝ่ายคุ้มครองผู้บริโภคของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ได้ลงพื้นที่ตรวจตราการประกอบการโรงศิลป์ของสถานประกอบการต่างๆ ในพื้นที่ อ.เมืองภูเก็ต ว่า มีการดำเนินการเป็นไปตามมาตรฐานทางการแพทย์หรือไม่ และจากการลงพื้นที่ดังกล่าวในช่วงเวลา 14.00 น.พบมีหน่วยแพทย์เคลื่อนที่กำลังดำเนินการให้บริการตรวจสุขภาพประจำปีให้แก่พนักงานห้างแห่งหนึ่ง สาขามหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวขอเข้าตรวจสอบ จากการตรวจสอบพบมีผู้เกี่ยวข้องร่วมดำเนินการให้บริการตรวจสุขภาพ ซึ่งมีทั้งหมด 5 คน ไม่มีใบประกอบวิชาชีพใดๆ เพียงแค่เป็นผู้ที่จบจากโรงเรียนการบริบาล หลักสูตร 6 เดือน ไม่สามารถปฏิบัติการโดยลำพังได้

จากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายคุ้มครองผู้บริโภคฯ จึงได้แจ้งประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต ให้เข้ามาดำเนินการควบคุมผู้กระทำความผิดทั้งหมด พร้อมรถเอกซเรย์ จำนวน 1 คัน นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยได้แจ้งข้อกล่าวหา ดังนี้ 1.ข้อความผิดตาม มาตรา 16 พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ห้ามมิให้บุคคลใดประกอบกิจการสถานพยาบาล เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากผู้อนุญาต มาตรา 24 ห้ามมิให้บุคคลใดประกอบกิจการสถานพยาบาล เว้นแต่ได้รับใบอนุญาตจากผู้อนุญาต มีความผิดตามมาตรา 57 จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2.ผู้ที่ทำหน้าที่เอกซเรย์ ผิดตามมาตรา 30 ของ พ.ร.บ.การประกอบโรคศิลปะ พ.ศ.2542 ห้ามมิให้ผู้ใดทำการประกอบโรคศิลปะหรือกระทำด้วยการประกอบใดๆ ให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีสิทธิทำการประกอบโรคศิลปะ โดยมิได้ขึ้นทะเบียนและใบรับอนุญาต โทษตาม มาตรา 57 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 3.ผิดตาม มาตรา 26 พ.ร.บ.ประกอบวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ห้ามมิให้ผู้ใดประกอบวิชาชีพเวชกรรมหรือแสดงด้วยวิธีใดๆ ว่าพร้อมที่จะประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยมิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพ ตาม พ.ร.บ.นี้ โทษตาม มาตรา 43 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ 4.ผู้ทำหน้าที่/แสดงตนเป็นเทคนิคการแพทย์ ผิดตาม มาตรา 28 พ.ร.บ.วิชาชีพเทคนิคการแพทย์ พ.ศ.2547 ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ ทำการประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์หรือแสดงด้วยวิธีใดๆ ให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนมีสิทธิเป็นผู้ประกอบการวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ โทษตาม มาตรา 50 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายแพทย์บัญชา กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ดังกล่าวดำเนินการโดยคลินิกทางเวชกรรมแห่งหนึ่ง ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่จังหวัดปทุมธานี จะออกหน่วยให้บริการตรวจสุขภาพประจำปีให้แก่พนักงานของห้างสรรพสินค้า หรือบริษัทผู้ว่าจ้างที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศ โดยคลินิกดังกล่าวจะเอาผู้ที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพ รวมทั้งไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ ทางด้านการรักษาพยาบาลมารวมกันเพื่อตรวจสุขภาพทำหน้าที่คล้ายเป็นแพทย์ ดังนั้น จึงอยากฝากเตือนไปยังองค์กร ห้างสรรพสินค้า รวมไปถึงโรงเรียน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ให้ตรวจตราคุณสมบัติของผู้ประกอบการโดยละเอียดถี่ถ้วนทั้งขั้นตอนการทำสัญญา ขั้นตอนของการมาให้บริการว่าเป็นไปตามมาตรฐานทางการแพทย์หรือไม่ เพื่อป้องกันการเอาผู้ที่ไม่ได้มีใบประกอบวิชีพชีพรวมทั้งไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพมาดำเนินการ และนอกจากนี้ ขอฝากไปยังพี่น้องประชาชน ถ้าไม่แน่ใจว่าผู้ที่มาให้บริการตรวจสุขภาพจะมีคุณสมบัติตามกฎหมายกำหนดหรือไม่ ควรแจ้งไปทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ให้เข้าไปทำหน้าที่ตรวจว่ามีคุณสมบัติจริงตามกฎหมายหรือไม่