กระบี่ - ฮือฮา! อีก หัวหน้าอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี พร้อมคณะพบฉลามวาฬ ขนาดความยาวเกือบ 7 เมตร น้ำหนักกว่า 1 ตัน ว่ายน้ำอวดโฉมหน้าบริเวณเกาะเหลาหลาดิง จ.กระบี่ คนละตัวกับเจ้าหน้าที่พบก่อนหน้านี้
วันนี้ (21 ธ.ค.) นายธีระศักดิ์ ศรีสัจจัง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่รวม 5 คน ได้นำเรือเร็วของหน่วยงานฯ ออกลาดตระเวนตรวจดูแลความเรียบร้อยในทะเลพื้นที่รับผิดชอบของอุทยานธารโบกขรณี ที่มีเกาะแก่งเรียงราย จำนวน 15 เกาะ ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังขับเรือลาดตระเวนบริเวณหน้าเกาะพาราไดซ์ หรือเกาะเหลาหลาดิง พื้นที่หมู่ที่ 2 ตำบลเขาทอง อำเภอเมืองกระบี่ ห่างจากเกาะห้องประมาณ 2 กิโลเมตร ได้พบฉลามวาฬขนาดใหญ่ จำนวน 1 ตัว กำลังแหวกว่ายเหนือผิวน้ำ มองเห็นด้วยตาเปล่าชัดเจนโดยไม่ตระหนกต่อเสียงเรือ จึงบันทึกภาพนิ่ง และวิดีโอไว้ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ลำตัวมีความยาวประมาณ 6.5 เมตร น้ำหนัก ประมาณ 1.3 ตัน เป็นคนละตัวกับที่เจ้าหน้าที่ได้พบเมื่อวันที่ 5 และวันที่ 10 ธันวาคม 58
นายวีระศักดิ์ ศรีสัจจัง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี กล่าวว่า จากการออกลาดตระเวนตรวจตราความเรียบร้อยน่านน้ำทะเลในพื้นที่รับผิดชอบ จำนวน 15 เกาะ ได้พบฉลามวาฬที่มีขนาดใหญ่มาก น้ำหนักกว่า 1 ตัน ที่บริเวณหน้าเกาะพาราไดซ์ หรือเกาะเหลาหลาดิง ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่พบฉลามวาฬบ่อยครั้งในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี มีมากกว่า 5 ตัว และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาของวันเดียวกัน จ้าหน้าที่อุทยานธารโบกขรณี 1 เกาะห้อง ใช้เรือหางยาวออกตรวจตราความเรียบร้อยก็ได้พบด้วย จำนวน 1 ตัว ในบริเวณใกล้เคียงกัน แต่มีขนาดเล็กกว่า
โดยในเบื้องต้น ตนได้ใช้มาตรการในการดูแลฉลามวาฬสัตว์สงวน อันดับที่ 18 ของไทย ที่ห้ามจับ ห้ามล่าไว้เป็นการเร่งด่วนแล้ว พร้อมทำการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว เรือประมง ระมัดระวังในการเดินเรือในร่องน้ำลึกบริเวณเกาะแก่งต่างๆ ในเขตอุทยานฯ อย่าเดินเรือเข้าใกล้ฉลามวาฬในระยะกระชั้นชิด และไม่ให้นักท่องเที่ยวลงดำน้ำเข้าใกล้เพื่อเล่น และถ่ายรูปใต้น้ำ หากพบเห็นผู้กระทำผิดให้แจ้งทางอุทยานฯ ได้เพื่อดำเนินการ ทั้งนี้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ นำเรือออกตรวจทุกวัน
ที่ผ่านมา จะพบฉลามวาฬในช่วงเดือนตุลาคม ถึงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี และปีนี้เดือนธันวาคม ก็ยังมีให้เห็นบ่อยครั้ง ซึ่งบ่งชี้ได้ว่าทะเลฝั่งอันดามันมีความสมบูรณ์ทางระบบนิเวศมีแพลงก์ตอนจำนวนมากที่ฉลามวาฬ และสัตว์อื่นเข้ามาหาอาหารกิน และอยู่อาศัย นอกจากนี้ การประกาศปิดอ่าวช่วงสัตว์น้ำวางไข่ของทุกปีที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังออกตรวจตราจับกุมเรือประมงที่กระทำผิดกฎมายทุกวันจึงไม่เป็นที่รบกวนการเป็นอยู่ของปลา และฉลามวาฬ
วันนี้ (21 ธ.ค.) นายธีระศักดิ์ ศรีสัจจัง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่รวม 5 คน ได้นำเรือเร็วของหน่วยงานฯ ออกลาดตระเวนตรวจดูแลความเรียบร้อยในทะเลพื้นที่รับผิดชอบของอุทยานธารโบกขรณี ที่มีเกาะแก่งเรียงราย จำนวน 15 เกาะ ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังขับเรือลาดตระเวนบริเวณหน้าเกาะพาราไดซ์ หรือเกาะเหลาหลาดิง พื้นที่หมู่ที่ 2 ตำบลเขาทอง อำเภอเมืองกระบี่ ห่างจากเกาะห้องประมาณ 2 กิโลเมตร ได้พบฉลามวาฬขนาดใหญ่ จำนวน 1 ตัว กำลังแหวกว่ายเหนือผิวน้ำ มองเห็นด้วยตาเปล่าชัดเจนโดยไม่ตระหนกต่อเสียงเรือ จึงบันทึกภาพนิ่ง และวิดีโอไว้ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ลำตัวมีความยาวประมาณ 6.5 เมตร น้ำหนัก ประมาณ 1.3 ตัน เป็นคนละตัวกับที่เจ้าหน้าที่ได้พบเมื่อวันที่ 5 และวันที่ 10 ธันวาคม 58
นายวีระศักดิ์ ศรีสัจจัง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี กล่าวว่า จากการออกลาดตระเวนตรวจตราความเรียบร้อยน่านน้ำทะเลในพื้นที่รับผิดชอบ จำนวน 15 เกาะ ได้พบฉลามวาฬที่มีขนาดใหญ่มาก น้ำหนักกว่า 1 ตัน ที่บริเวณหน้าเกาะพาราไดซ์ หรือเกาะเหลาหลาดิง ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่พบฉลามวาฬบ่อยครั้งในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี มีมากกว่า 5 ตัว และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาของวันเดียวกัน จ้าหน้าที่อุทยานธารโบกขรณี 1 เกาะห้อง ใช้เรือหางยาวออกตรวจตราความเรียบร้อยก็ได้พบด้วย จำนวน 1 ตัว ในบริเวณใกล้เคียงกัน แต่มีขนาดเล็กกว่า
โดยในเบื้องต้น ตนได้ใช้มาตรการในการดูแลฉลามวาฬสัตว์สงวน อันดับที่ 18 ของไทย ที่ห้ามจับ ห้ามล่าไว้เป็นการเร่งด่วนแล้ว พร้อมทำการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว เรือประมง ระมัดระวังในการเดินเรือในร่องน้ำลึกบริเวณเกาะแก่งต่างๆ ในเขตอุทยานฯ อย่าเดินเรือเข้าใกล้ฉลามวาฬในระยะกระชั้นชิด และไม่ให้นักท่องเที่ยวลงดำน้ำเข้าใกล้เพื่อเล่น และถ่ายรูปใต้น้ำ หากพบเห็นผู้กระทำผิดให้แจ้งทางอุทยานฯ ได้เพื่อดำเนินการ ทั้งนี้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ นำเรือออกตรวจทุกวัน
ที่ผ่านมา จะพบฉลามวาฬในช่วงเดือนตุลาคม ถึงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี และปีนี้เดือนธันวาคม ก็ยังมีให้เห็นบ่อยครั้ง ซึ่งบ่งชี้ได้ว่าทะเลฝั่งอันดามันมีความสมบูรณ์ทางระบบนิเวศมีแพลงก์ตอนจำนวนมากที่ฉลามวาฬ และสัตว์อื่นเข้ามาหาอาหารกิน และอยู่อาศัย นอกจากนี้ การประกาศปิดอ่าวช่วงสัตว์น้ำวางไข่ของทุกปีที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังออกตรวจตราจับกุมเรือประมงที่กระทำผิดกฎมายทุกวันจึงไม่เป็นที่รบกวนการเป็นอยู่ของปลา และฉลามวาฬ