ตรัง - ญาติพี่น้อง “น้องเกมส์” วัยรุ่น 18 ปี ชาวนาโยง จ.ตรัง ซึ่งถูกแทงกว่า 70 แผล จนเสียชีวิตเมื่อ 2 เดือนก่อน ร้องสื่อหลังคดีไม่คืบหน้า ด้าน ผกก.ยันเร่งไล่ล่าตัวคนร้ายแล้ว แม้จะหลบหนีไปอยู่ที่อื่น
วันนี้ (17 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังวัดรัตนาภิมุข (วัดปากเหมือง) ในเขตเทศบาลตำบลนาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง หลังจากได้รับร้องเรียนจากญาติพี่น้องของ นายวรเทพ ไสลเพชร หรือน้องเกมส์ อายุ 18 ปี ซึ่งถูกคนร้ายใช้อาวุธมีดแทงกระหน่ำกว่า 70 แผล จนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา เหตุเกิดบริเวณริมถนนสายนาโยง-ย่านตาขาว หมู่ที่ 4 ต.นาข้าวเสีย อ.นาโยง จ.ตรัง เนื่องจากการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีนี้ยังไม่มีความคืบหน้า จึงต้องร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนเพื่อให้ช่วยเหลือติดตาม
น.ส.สุจินต์ ไสลเพชร อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ที่ 5 ซ.รัตนาภิมุข 2 ต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง ซึ่งเป็นป้าของ น้องเกมส์ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นจวนจะครบ 2 เดือนเต็มแล้ว แต่การติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดียังไม่มีความคืบหน้า เคยสอบถามไปยัง พ.ต.ต.วัฒนา ทองคง สารวัตรเวรเจ้าของคดี ก็ได้คำตอบแค่เพียงว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งติดตามตัว แต่ตนและญาติสงสัยว่า ทั้งที่ทราบอยู่แล้วว่าคนร้ายเป็นใคร บ้านอยู่ที่ไหน ทำไมจึงยังติดตามตัวมาดำเนินคดีไม่ได้ และคิดว่าได้ให้เวลาแก่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาพอสมควรแล้ว จึงต้องร้องผ่านสื่อมวลชนให้ช่วยติดตามอีกแรงหนึ่ง
น.ส.สุจินต์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาได้มีผู้หลักผู้ใหญ่เข้ามาเจรจาพูดคุย โดยจะให้เงินตอบแทน จำนวน 100,000-200,000 บาท เพื่อไม่ให้เอาผิดต่อคนร้าย แต่ตน และญาติปฏิเสธไป และไม่ว่าจะนำเงินจำนวนเท่าไหร่มาเสนอก็จะไม่มีการยินยอมโดดเด็ดขาด เพราะอยากทวงความยุติธรรมให้แก่หลาน ส่วนบุคคลที่ทำให้หลานต้องเสียชีวิตก็ต้องได้รับผลจากการกระทำของเขาด้วย และจากการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลที่ได้ทำการผ่าพิสูจน์ศพ ทราบว่า บาดแผลตามร่างกายของ น้องเกมส์ มีมากกว่า 70 แผล โดนจุดสำคัญกว่า 20 จุด และอาวุธที่ใช้ไม่น่าจะต่ำกว่า 2 ชนิดแน่นอน ตนและครอบครัวเชื่อแน่ว่าผู้ที่ร่วมกันฆ่าหลานของตนต้องมีมากกว่า 1 คน จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนเรื่องนี้ให้แน่ชัด เพื่อติดตามตัวคนร้ายทั้งหมดมาดำเนินคดี
ต่อมา ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง พ.ต.อ.ชัยโรจน์ โพธิปฐม ผกก.สภ.นาโยง ต่อกรณีดังกล่าว ให้ข้อมูลว่า หลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งดำเนินการติดตามตัวคนร้ายอยู่ตลอด ไม่มีการเพิกเฉยอย่างแน่นอน และได้มีการออกหมายจับไปแล้วตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ แต่จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่า ขณะนี้ผู้ต้องหาได้หลบหนีออกนอกพื้นที่ไปแล้ว แต่กำลังติดตามต่อเนื่องว่าไปอยู่ในพื้นที่ใด เพราะจากการสืบสวนก็ไม่พบว่า ผู้ต้องหาแวะเวียนกลับมาที่บ้านภรรยาใน อ.นาโยง และที่บ้านพ่อ อ.ย่านตาขาว อีกเลยนับจากวันที่เกิดเรื่อง แต่อย่างไรก็ตาม จากการสืบประวัติทราบว่า ผู้ต้องหาเคยถูกจับกุมในคดีฆ่าผู้อื่นมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งตอนนี้อาจจะไปหลบซ่อนอยู่ที่บ้านของเพื่อนฝูง หรือเครือข่าย ซึ่งต้องดำเนินการสืบสวนกันต่อไป
ส่วนกรณีที่ญาติยังติดใจว่า บาดแผลที่พบตามร่างกายน่าจะมาจากอาวุธหลายชนิดและอาจมีผู้ร่วมก่อเหตุหลายรายนั้น พ.ต.อ.ชัยโรจน์ กล่าวว่า ขอให้ยึดตามเอกสารหลักฐานที่แพทย์เป็นหลัก แต่หากสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ และอาจมีการซักทอดไปยังใครก็จะดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากญาติพี่น้องของผู้เสียหาย และบุคคลทั่วไปที่รู้ข้อมูลของผู้ต้องหารายนี้ หากพบเบาะแสว่าไปหลบซ่อนอยู่ที่ใด ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาได้ทันที เพราะการทำงานต้องร่วมมือกันหลายๆ ฝ่าย จะช่วยให้ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้อย่างรวดเร็ว
