ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ไม่พ้นมือตำรวจ ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดภูเก็ต ตามรวบโจ๋ก่อเหตุลักทรัพย์นักท่องเที่ยวต่างชาติ-คนไทย ได้ทรัพย์สินไปกว่า 2 ล้านบาท สืบสวนขยายผลพบนำเงินที่ได้จากการลักทรัพย์ไปซื้อยาเสพติด ตามรวบผู้ต้องหาเกี่ยวกับยาเสพติดอีก 2 ราย
จากกรณีเมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา MRS.ANASTASSIYA ZAKHAPENKOVA อายุ 31 ปี นักท่องเที่ยวชาวคาซัคสถาน เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง อ.เมือง จังหวัดภูเก็ต ว่า ถูกคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ตู้เซฟของครอบครัว ซึ่งภายในมีทั้งเงินสด พาสปอร์ต และทรัพย์สินอีกหลายรายการ รวมมูลค่า 2,436,000 บาท ขณะที่ผู้เสียหาย และครอบครัวซึ่งพักอยู่ที่ 20/115 ม.4 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ออกไปท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยภายในบ้านมีร่องรอยการรื้อค้น
ภายหลังได้รับแจ้ง พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.พีระยุทธ การะเจดีย์ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.พินิจ ศิริชัย รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.วีระวัฒน์ จันทรวิจิตร รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.สมคิด บุญรัตน์ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.นพดล ถิรประวัติ ผกก.สภ.ฉลอง ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดภูเก็ต และตำรวจภูธรฉลองออกติดตามจับกุมคนร้ายเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีโดยเร่งด่วน
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต นำโดย พ.ต.ท.ธรรมสรรค์ บุญทรง รอง ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.กฤษณะ หยาดคำ สว.กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.ต.สุภาพ แซ่ลิ้ม สว.กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย ร.ต.อ.ตะวัน เลขมาศ รอง สว.กก.สส. ร.ต.อ.พิชิต ทองโต รอง สว.กก.สส. ร.ต.ท.ไพจิตร หลีเจริญสุข รอง สว.กก.สส. ร.ต.ท.นิโรจน์ บุญศิริ รอง สว.กก.สส. รวมทั้งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง ออกสืบสวนหาข่าว และติดตามจับกุมคนร้ายเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเร่งด่วน
ซึ่งจากการสืบสวน และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจนทราบตำหนิรูปพรรณ และรถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ รวมทั้งเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี จนกระทั่งทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้คือ นายไมตรี สืบวิเศษ อายุ 22 ปี จึงได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ จ.890/2558 ลงวันที่ 11 ธันวาคม 2558 และออกสืบสวนติดตาม และกดดันจับกุมคนร้ายอย่างหนัก ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหามักจะไปหาเพื่อนที่บ้านซอยเฉลิมพระเกียรติ บ้านโคกโตนด ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ทางเจ้าหน้าที่จึงวางกำลังเฝ้าติดตาม รวมทั้งบ้านบิดา บ้านญาติ และบ้านภรรยา ในพื้นที่ ต.ราไวย์ เนื่องจากคนร้ายเริ่มไหวตัวโดยนำรถคันที่ก่อเหตุไปไว้ที่ร้านของเพื่อนเพื่อให้ดัดแปลง แต่อย่างไรก็ตาม จากการติดตามจับกุม และกดดันอย่างหนัก ในที่สุด นายไมตรี ผู้ต้องหา ได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม หลังจากนั้น ได้นำตัวมาสอบสวน ซึ่งในเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ และนำไปตรวจยึดทรัพย์สินซึ่งขโมยมาจากบ้านพักนักท่องเที่ยว และบ้านของชาวบ้านในพื้นที่บ้านบ่อแร่ ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต
สำหรับทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้มีหลายรายการ ซึ่งเป็นของผู้เสียหาย MRS.ANASTASSIYA ZAKHAPENKOVA ประกอบด้วย 1.ธนบัตรดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ฉบับละ 100 ดอลลาร์ จำนวน 12,000 ดอลลาร์ นาฬิกายี่ห้อ HUBLOT สีทอง จำนวน 1 เรือน นาฬิกา ยี่ห้อ GUESS สีขาว จำนวน 1 เรือน สร้อยสีเงิน จำนวน 1 เส้น สร้อยข้อมือสีเงิน จำนวน 1 เส้น สร้อยข้อมือสีทอง จำนวน 1 เส้น สร้อยสีทอง จำนวน 2 เส้น ต่างหูสีทอง จำนวน 2 คู่ ต่างหูสีทอง จำนวน 1 ข้าง แหวนสีทอง จำนวน 3 วง ตู้เซฟยี่ห้อ WORLD SAFE สีดำ จำนวน 1 ตู้ บัตรเครดิต ชื่อ ANASTASSIYA ZAKHARENKOVA จำนวน 3 ใบ พาสปอร์ต 5 เล่ม กระเป๋าถือแบบผู้หญิง สีดำ จำนวน 1 ใบ นาฬิกายี่ห้อ BVLGARI จำนวน 1 เรือน ธนบัตรสกุลคาซัคสถาน ฉบับละ 2,000 จำนวน 49 ฉบับ แหวนสีเงิน จำนวน 2 วง ต่างหูสีเงิน จำนวน 2 คู่ นอกจากนั้น ยังมีทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ และเป็นของผู้เสียหายคนไทย คือ นางจันทนา สุขสวรรณ ซึ่งถูกนายไมตรี เข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์เช่นเดียวกัน ประกอบด้วย ต่างหูสีทอง จำนวน 5 ชิ้น ตะขอสร้อยคอสีทอง จำนวน 1 ชิ้น จี้สร้อยคอสีทอง จำนวน 2 ชิ้น
นอกจากนั้น ยังมีของกลางที่ผู้ต้องหาใช้ในการก่อเหตุ และนำเงินที่ได้จากการลักทรัพย์ไปซื้ออีกหลายรายการ ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า สีชมพู-ขาว รุ่น ฟีโน่ หมายเลขทะเบียน ขนษ 848 ภูเก็ต จำนวน 1 คัน เฟรมรถจักรยานยนต์รุ่นฟีโน สีชมพู-ขาว 1 ชุด จำนวน 8 ชิ้น คีมตัดเหล็ก จำนวน 1 อัน เสื้อยืดสีน้ำตาล จำนวน 1 ตัว กางเกงลายยี่ห้อบิลลาบอง ขาสั้น จำนวน 1 ตัว หมวกกันน็อกสีน้ำเงิน มีดพกด้ามไม้ ซองพีวีซี ความยาวรวมด้าม 30 ซม จำนวน 1 ด้าม มีดพกด้ามไม้ ซองหนังสีดำ ความยาวรวมด้าม 24 ซม จำนวน 1 ด้าม มีดพับด้ามไม้ SOLO จำนวน 1 ด้าม มีดพับด้ามสีแดง จำนวน 1 ด้าม มีดพับอเนกประสงค์ จำนวน 1 ด้าม ไฟเช็กแก๊ส สีเงิน BUGATTI จำนวน 1 ตัว ไฟเช็กยี่ห้อ ZIPPO สีเงิน จำนวน 1 ตัว ไฟเช็กแก๊ส สีดำ จำนวน 1 ตัว
สำหรับของกลางที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้ ผู้ต้องหานำตรวจยึดได้บริเวณริมคลองภายในซอยเฉลิมพระเกียรติ ม.9 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต รวมทั้งบ้านเลขที่ 125 เฉลิมพระเกียรติซอย 3 ม.9 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต และบ้านเลขที่ 30/10 ม.4 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์ของผู้อื่นในเคหสถานโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับบุคคลหรือทรัพย์สิน โดยใช้ยานพาหนะ”
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า เงินจำนวนหนึ่งที่ได้มาจากการลักทรัพย์ได้นำไปซื้อยาเสพติดมาเสพ โดยไปซื้อในพื้นที่กะทู้ และราไวย์ ซึ่งจากการตรวจปัสสาวะของผู้ต้องหาพบว่ามีสีม่วง จึงได้นำตัวไปสอบสวนขยายผล และติดตามจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดได้เพิ่มอีก 2 ราย คือ นายวีระโชติ เนาร์ไพร และนายชากีริน ท่อทิพย์ โดยควบคุมตัวมาดำเนินคดีในข้อหาจำหน่ายยาเสพติดโดยไม่ได้รับอนุญาต และจากการตรวจสอบพบว่า นายไมตรี เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง จับกุมดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์มาแล้วครั้งหนึ่งเมือปี 2553 ซึ่งขณะนี้มีอายุเพียงแค่ 17 ปี และพ้นโทษออกมาเมื่อปี 2554
จากกรณีเมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา MRS.ANASTASSIYA ZAKHAPENKOVA อายุ 31 ปี นักท่องเที่ยวชาวคาซัคสถาน เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง อ.เมือง จังหวัดภูเก็ต ว่า ถูกคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ตู้เซฟของครอบครัว ซึ่งภายในมีทั้งเงินสด พาสปอร์ต และทรัพย์สินอีกหลายรายการ รวมมูลค่า 2,436,000 บาท ขณะที่ผู้เสียหาย และครอบครัวซึ่งพักอยู่ที่ 20/115 ม.4 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ออกไปท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยภายในบ้านมีร่องรอยการรื้อค้น
ภายหลังได้รับแจ้ง พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.พีระยุทธ การะเจดีย์ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.พินิจ ศิริชัย รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.วีระวัฒน์ จันทรวิจิตร รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.สมคิด บุญรัตน์ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.นพดล ถิรประวัติ ผกก.สภ.ฉลอง ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดภูเก็ต และตำรวจภูธรฉลองออกติดตามจับกุมคนร้ายเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีโดยเร่งด่วน
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต นำโดย พ.ต.ท.ธรรมสรรค์ บุญทรง รอง ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.กฤษณะ หยาดคำ สว.กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.ต.สุภาพ แซ่ลิ้ม สว.กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย ร.ต.อ.ตะวัน เลขมาศ รอง สว.กก.สส. ร.ต.อ.พิชิต ทองโต รอง สว.กก.สส. ร.ต.ท.ไพจิตร หลีเจริญสุข รอง สว.กก.สส. ร.ต.ท.นิโรจน์ บุญศิริ รอง สว.กก.สส. รวมทั้งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง ออกสืบสวนหาข่าว และติดตามจับกุมคนร้ายเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเร่งด่วน
ซึ่งจากการสืบสวน และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจนทราบตำหนิรูปพรรณ และรถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ รวมทั้งเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี จนกระทั่งทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้คือ นายไมตรี สืบวิเศษ อายุ 22 ปี จึงได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ จ.890/2558 ลงวันที่ 11 ธันวาคม 2558 และออกสืบสวนติดตาม และกดดันจับกุมคนร้ายอย่างหนัก ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหามักจะไปหาเพื่อนที่บ้านซอยเฉลิมพระเกียรติ บ้านโคกโตนด ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ทางเจ้าหน้าที่จึงวางกำลังเฝ้าติดตาม รวมทั้งบ้านบิดา บ้านญาติ และบ้านภรรยา ในพื้นที่ ต.ราไวย์ เนื่องจากคนร้ายเริ่มไหวตัวโดยนำรถคันที่ก่อเหตุไปไว้ที่ร้านของเพื่อนเพื่อให้ดัดแปลง แต่อย่างไรก็ตาม จากการติดตามจับกุม และกดดันอย่างหนัก ในที่สุด นายไมตรี ผู้ต้องหา ได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม หลังจากนั้น ได้นำตัวมาสอบสวน ซึ่งในเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ และนำไปตรวจยึดทรัพย์สินซึ่งขโมยมาจากบ้านพักนักท่องเที่ยว และบ้านของชาวบ้านในพื้นที่บ้านบ่อแร่ ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต
สำหรับทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้มีหลายรายการ ซึ่งเป็นของผู้เสียหาย MRS.ANASTASSIYA ZAKHAPENKOVA ประกอบด้วย 1.ธนบัตรดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ฉบับละ 100 ดอลลาร์ จำนวน 12,000 ดอลลาร์ นาฬิกายี่ห้อ HUBLOT สีทอง จำนวน 1 เรือน นาฬิกา ยี่ห้อ GUESS สีขาว จำนวน 1 เรือน สร้อยสีเงิน จำนวน 1 เส้น สร้อยข้อมือสีเงิน จำนวน 1 เส้น สร้อยข้อมือสีทอง จำนวน 1 เส้น สร้อยสีทอง จำนวน 2 เส้น ต่างหูสีทอง จำนวน 2 คู่ ต่างหูสีทอง จำนวน 1 ข้าง แหวนสีทอง จำนวน 3 วง ตู้เซฟยี่ห้อ WORLD SAFE สีดำ จำนวน 1 ตู้ บัตรเครดิต ชื่อ ANASTASSIYA ZAKHARENKOVA จำนวน 3 ใบ พาสปอร์ต 5 เล่ม กระเป๋าถือแบบผู้หญิง สีดำ จำนวน 1 ใบ นาฬิกายี่ห้อ BVLGARI จำนวน 1 เรือน ธนบัตรสกุลคาซัคสถาน ฉบับละ 2,000 จำนวน 49 ฉบับ แหวนสีเงิน จำนวน 2 วง ต่างหูสีเงิน จำนวน 2 คู่ นอกจากนั้น ยังมีทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ และเป็นของผู้เสียหายคนไทย คือ นางจันทนา สุขสวรรณ ซึ่งถูกนายไมตรี เข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์เช่นเดียวกัน ประกอบด้วย ต่างหูสีทอง จำนวน 5 ชิ้น ตะขอสร้อยคอสีทอง จำนวน 1 ชิ้น จี้สร้อยคอสีทอง จำนวน 2 ชิ้น
นอกจากนั้น ยังมีของกลางที่ผู้ต้องหาใช้ในการก่อเหตุ และนำเงินที่ได้จากการลักทรัพย์ไปซื้ออีกหลายรายการ ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า สีชมพู-ขาว รุ่น ฟีโน่ หมายเลขทะเบียน ขนษ 848 ภูเก็ต จำนวน 1 คัน เฟรมรถจักรยานยนต์รุ่นฟีโน สีชมพู-ขาว 1 ชุด จำนวน 8 ชิ้น คีมตัดเหล็ก จำนวน 1 อัน เสื้อยืดสีน้ำตาล จำนวน 1 ตัว กางเกงลายยี่ห้อบิลลาบอง ขาสั้น จำนวน 1 ตัว หมวกกันน็อกสีน้ำเงิน มีดพกด้ามไม้ ซองพีวีซี ความยาวรวมด้าม 30 ซม จำนวน 1 ด้าม มีดพกด้ามไม้ ซองหนังสีดำ ความยาวรวมด้าม 24 ซม จำนวน 1 ด้าม มีดพับด้ามไม้ SOLO จำนวน 1 ด้าม มีดพับด้ามสีแดง จำนวน 1 ด้าม มีดพับอเนกประสงค์ จำนวน 1 ด้าม ไฟเช็กแก๊ส สีเงิน BUGATTI จำนวน 1 ตัว ไฟเช็กยี่ห้อ ZIPPO สีเงิน จำนวน 1 ตัว ไฟเช็กแก๊ส สีดำ จำนวน 1 ตัว
สำหรับของกลางที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้ ผู้ต้องหานำตรวจยึดได้บริเวณริมคลองภายในซอยเฉลิมพระเกียรติ ม.9 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต รวมทั้งบ้านเลขที่ 125 เฉลิมพระเกียรติซอย 3 ม.9 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต และบ้านเลขที่ 30/10 ม.4 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์ของผู้อื่นในเคหสถานโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับบุคคลหรือทรัพย์สิน โดยใช้ยานพาหนะ”
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า เงินจำนวนหนึ่งที่ได้มาจากการลักทรัพย์ได้นำไปซื้อยาเสพติดมาเสพ โดยไปซื้อในพื้นที่กะทู้ และราไวย์ ซึ่งจากการตรวจปัสสาวะของผู้ต้องหาพบว่ามีสีม่วง จึงได้นำตัวไปสอบสวนขยายผล และติดตามจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดได้เพิ่มอีก 2 ราย คือ นายวีระโชติ เนาร์ไพร และนายชากีริน ท่อทิพย์ โดยควบคุมตัวมาดำเนินคดีในข้อหาจำหน่ายยาเสพติดโดยไม่ได้รับอนุญาต และจากการตรวจสอบพบว่า นายไมตรี เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง จับกุมดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์มาแล้วครั้งหนึ่งเมือปี 2553 ซึ่งขณะนี้มีอายุเพียงแค่ 17 ปี และพ้นโทษออกมาเมื่อปี 2554