ศูนย์ข่าวภูเก็ต - จังหวัดภูเก็ต เดินหน้าจัดระเบียบชายหาด คาดออกประกาศผ่อนผันพื้นที่ 10% ให้ผู้ได้รับผลกระทบทำมาหากินได้ภายในต้นปีหน้า ย้ำปักร่มได้เฉพาะพื้นที่ที่กำหนดเท่านั้น หากฝ่าฝืนพร้อมยกเลิกทันที ทั้งนี้ เพื่อต้องการกันพื้นที่ธรรมชาติให้แก่คนภูเก็ต และนักท่องเที่ยวทุกๆ คน
นายโชคดี อมรวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดระเบียบชายหาดจังหวัดภูเก็ต ว่า การจัดระเบียบชายหาดจังหวัดภูเก็ต เพื่อเยียวยาให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการจัดระเบียบชายหาดมีความคืบหน้าไปมากแล้ว ตามนโยบายการจัดพื้นที่ให้ประกอบการบนชายหาดได้ 10% ของพื้นที่ชายหาดทั้งหมด โดยทางคณะกรรมการจัดระเบียบชายหาด ได้กำหนดหลักเกณฑ์ “1 หาด 1 ประกาศ 1 แผนที่ มีหลักเขตแน่นอน 1 องค์กรในการดูแล” หรือ One beach, one declare, one map with one organization ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการจัดระเบียบชายหาดได้ดำเนินการสำรวจพื้นที่เพื่อกำหนดหลักเขตครบทุกหาดในจังหวัดภูเก็ตแล้ว โดยอยู่ในระหว่างการออกประกาศ และนำหมุดหลักเขตถาวรมาติดตั้งต่อไป
โดยได้แบ่งประเภทชายหาดของภูเก็ตออกเป็น 3 ประเภทด้วยกัน คือ 1.หาดเทิดพระเกียรติ หมายถึง หาดที่พระมหากษัตริย์ และสมเด็จพระราชินีเคยเสด็จประพาส ได้แก่ หาดสุรินทร์ ซึ่งในส่วนนี้จะต้องมีการรื้ออาคารที่ทาง อบจ.ภูเก็ตได้สร้างไว้ โดยคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้ เพื่อให้หาดสุรินทร์ เป็นหาดที่สวยงามตามธรรมชาติ 2.หาดธรรมชาติ หมายถึง หาดซึ่งควรคงไว้ซึ่งการอนุรักษ์ และรักษาตามสภาพธรรมชาติ เพื่อเป็นทรัพยากรการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนของจังหวัดภูเก็ต และ 3.หาดจัดระเบียบ หมายถึง หาดซึ่งเคยมีกลุ่มบุคคลเคยใช้พื้นที่ประกอบอาชีพเต็มพื้นที่ ส่งผลต่อการใช้ประโยชน์ของสาธารณชน จึงจำเป็นต้องจัดระเบียบโดยให้ใช้ประโยชน์ไม่เกินร้อยละ 10 ของพื้นที่ตามความยาวหาด ซึ่งจะมีการจัดตั้งสมาคมรักษ์รักหาด ที่มีบุคคลจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการ และเป็นองค์กรในการบริหารจัดการชายหาดอย่างยั่งยืน รับผิดชอบดูแลในพื้นที่ผ่อนผัน 10% ให้เป็นไปตามระเบียบที่กำหนด และดูแลพื้นที่ 90% ที่เหลือ ซึ่งเป็นแนวทางในการบริหารจัดการชายหาดอย่างยั่งยืน และหากเมื่อให้มีการดำเนินการแล้ว มีการกระทำผิดข้อบังคับที่กำหนดขึ้น ทางจังหวัดจะยกเลิกการผ่อนผัน 10% ให้กลับสู่หาดธรรมชาติทันที และหลังจากที่ออกประกาศให้ประชาชนเข้าไปทำประโยชน์แล้ว ทางจังหวัดจะมีการประเมินผล โดยจะมอบหมายให้สถาบันการศึกษาเข้าไปทำการประเมิน และสรุปว่ามีปัญหาอะไรบ้าง จะให้ดำเนินการต่อไป หรือควรแก้ไขในส่วนใดบ้าง หรือให้ยกเลิกทั้งหมดในทุกๆ ปี
นายโชคดี กล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการผ่อนผันให้ประกอบการได้ 10% นั้น จะอนุญาตให้ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนสามารถปักร่ม ตั้งเบาะ ปูผ้า ปูเสื่อ และขายของ เช่น หิ้วกระติก ได้ตามที่กำหนดเท่านั้น ห้ามโดยเด็ดขาดที่จะไปดำเนินการในพื้นที่ที่เหลือ 90% แต่หากนักท่องเที่ยวมีเสื่อ ผ้า มาปูนอนอาบแดดในพื้นที่ 90% ก็สามารถดำเนินการได้ แต่จะต้องไม่มีการปักร่ม ทั้งนี้เพื่อต้องการที่จะให้ชายหาดมีความสวยงามตามธรรมชาติจริงๆ ซึ่งคาดว่าทางจังหวัดจะสามารถออกประกาศให้ดำเนินการได้ภายในต้นปี 2559 นี้ ซึ่งจะเป็นชายหาดที่มีการประกอบการมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว เช่น หาดป่าตอง กะตะ กะรน ในหาน เป็นต้น และผู้ที่จะเข้ามาดำเนินการได้นั้นจะต้องเป็นผู้ประกอบการเดิมที่ได้รับความเดือดร้อน และผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการเท่านั้น ไม่ใช่ใครก็ได้
นายโชคดี อมรวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดระเบียบชายหาดจังหวัดภูเก็ต ว่า การจัดระเบียบชายหาดจังหวัดภูเก็ต เพื่อเยียวยาให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการจัดระเบียบชายหาดมีความคืบหน้าไปมากแล้ว ตามนโยบายการจัดพื้นที่ให้ประกอบการบนชายหาดได้ 10% ของพื้นที่ชายหาดทั้งหมด โดยทางคณะกรรมการจัดระเบียบชายหาด ได้กำหนดหลักเกณฑ์ “1 หาด 1 ประกาศ 1 แผนที่ มีหลักเขตแน่นอน 1 องค์กรในการดูแล” หรือ One beach, one declare, one map with one organization ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการจัดระเบียบชายหาดได้ดำเนินการสำรวจพื้นที่เพื่อกำหนดหลักเขตครบทุกหาดในจังหวัดภูเก็ตแล้ว โดยอยู่ในระหว่างการออกประกาศ และนำหมุดหลักเขตถาวรมาติดตั้งต่อไป
โดยได้แบ่งประเภทชายหาดของภูเก็ตออกเป็น 3 ประเภทด้วยกัน คือ 1.หาดเทิดพระเกียรติ หมายถึง หาดที่พระมหากษัตริย์ และสมเด็จพระราชินีเคยเสด็จประพาส ได้แก่ หาดสุรินทร์ ซึ่งในส่วนนี้จะต้องมีการรื้ออาคารที่ทาง อบจ.ภูเก็ตได้สร้างไว้ โดยคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้ เพื่อให้หาดสุรินทร์ เป็นหาดที่สวยงามตามธรรมชาติ 2.หาดธรรมชาติ หมายถึง หาดซึ่งควรคงไว้ซึ่งการอนุรักษ์ และรักษาตามสภาพธรรมชาติ เพื่อเป็นทรัพยากรการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนของจังหวัดภูเก็ต และ 3.หาดจัดระเบียบ หมายถึง หาดซึ่งเคยมีกลุ่มบุคคลเคยใช้พื้นที่ประกอบอาชีพเต็มพื้นที่ ส่งผลต่อการใช้ประโยชน์ของสาธารณชน จึงจำเป็นต้องจัดระเบียบโดยให้ใช้ประโยชน์ไม่เกินร้อยละ 10 ของพื้นที่ตามความยาวหาด ซึ่งจะมีการจัดตั้งสมาคมรักษ์รักหาด ที่มีบุคคลจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการ และเป็นองค์กรในการบริหารจัดการชายหาดอย่างยั่งยืน รับผิดชอบดูแลในพื้นที่ผ่อนผัน 10% ให้เป็นไปตามระเบียบที่กำหนด และดูแลพื้นที่ 90% ที่เหลือ ซึ่งเป็นแนวทางในการบริหารจัดการชายหาดอย่างยั่งยืน และหากเมื่อให้มีการดำเนินการแล้ว มีการกระทำผิดข้อบังคับที่กำหนดขึ้น ทางจังหวัดจะยกเลิกการผ่อนผัน 10% ให้กลับสู่หาดธรรมชาติทันที และหลังจากที่ออกประกาศให้ประชาชนเข้าไปทำประโยชน์แล้ว ทางจังหวัดจะมีการประเมินผล โดยจะมอบหมายให้สถาบันการศึกษาเข้าไปทำการประเมิน และสรุปว่ามีปัญหาอะไรบ้าง จะให้ดำเนินการต่อไป หรือควรแก้ไขในส่วนใดบ้าง หรือให้ยกเลิกทั้งหมดในทุกๆ ปี
นายโชคดี กล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการผ่อนผันให้ประกอบการได้ 10% นั้น จะอนุญาตให้ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนสามารถปักร่ม ตั้งเบาะ ปูผ้า ปูเสื่อ และขายของ เช่น หิ้วกระติก ได้ตามที่กำหนดเท่านั้น ห้ามโดยเด็ดขาดที่จะไปดำเนินการในพื้นที่ที่เหลือ 90% แต่หากนักท่องเที่ยวมีเสื่อ ผ้า มาปูนอนอาบแดดในพื้นที่ 90% ก็สามารถดำเนินการได้ แต่จะต้องไม่มีการปักร่ม ทั้งนี้เพื่อต้องการที่จะให้ชายหาดมีความสวยงามตามธรรมชาติจริงๆ ซึ่งคาดว่าทางจังหวัดจะสามารถออกประกาศให้ดำเนินการได้ภายในต้นปี 2559 นี้ ซึ่งจะเป็นชายหาดที่มีการประกอบการมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว เช่น หาดป่าตอง กะตะ กะรน ในหาน เป็นต้น และผู้ที่จะเข้ามาดำเนินการได้นั้นจะต้องเป็นผู้ประกอบการเดิมที่ได้รับความเดือดร้อน และผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการเท่านั้น ไม่ใช่ใครก็ได้
