ฟันธง! ลูกเรือประมงยันกลุ่มโจรสลัดเป็นคนไทย ตร.ตั้งข้อหา “ปล้นทรัพย์”

 
สตูล - จากเหตุการณ์ปล้นเรือประมงกลางทะเลแล้วปล่อยลูกเรือลอยแพ ตำรวจตั้งข้อหา “ปล้นทรัพย์” กับกลุ่มโจรสลัด โดยลูกเรือประมงยืนยันเป็นคนไทยที่ก่อเหตุ ก่อนประสานมาเลย์ดำเนินการต่อไป

วันนี้ (3 ธ.ค.) พ.ต.อ.นิพล เหมสลาหมาด รอง ผบก.ภ.จว.สตูล เดินทางลงเกาะหลีเป๊ะเพื่อสอบปากคำลูกเรือประมง 6 คน หลังถูกกลุ่มโจรสลัดปล้นเรือ “โชคบุญมี 5” ไปกลางทะเล โดยนำลูกเรือพร้อมไต้ก๋งเรือทั้งหมดทิ้งลอยแพที่บริเวณเกาะหินตะกนเจ็ด ห่างจากเกาะหลีเป๊ะ 1-2 ไมล์ทะเล และบริเวณใกล้เกาะตะรุเตา โดยลูกเรือประมงทั้งหมดยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นกลุ่มโจรสลัดที่เชื่อได้ว่าเป็นคนไทย พร้อมอาวุธประจำกาย 5 คนนำเรือหางยาว เครื่อง 4 สูบ บุกเข้าปล้นเรือไป โดยไม่ได้ทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด และทุกคนยืนยันว่าจำรูปพรรณสัณฐานได้เป็นอย่างดี ตำรวจจึงลงบันทึกประจำวันในข้อหา “ปล้นทรัพย์”
 

 
รอง ผบก.ภ.จว.สตูลกล่าวด้วยว่า ได้ส่งชุดพนักงานสอบสวนและชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดเดินทางพร้อมผู้เสียหายลงเกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย สอบหาข้อเท็จจริงในกรณีนี้ หลังทางการมาเลเซียสามารถจับกุมเรือประมงที่ถูกปล้นไปได้ พร้อมผู้ต้องสงสัย 2 คน คาดเป็นคนไทยที่ก่อเหตุปล้นในครั้งนี้ โดยนำผู้เสียหายพร้อมหลักฐานในการครอบครองเรือไปแสดงการยืนยัน ส่วนข่าวที่ว่าเรือลำที่ถูกปล้นเป็นเรือของนักธุรกิจในมาเลเซียที่หายไปนั้น ในเรื่องนี้ต้องมายืนยันตามเอกสารหลักฐานกันอีกครั้ง แต่ในทางการสอบสวนสืบสวนพบว่ามีลูกเรือถูกกระทำจากพฤติกรรมการปล้นเรือไปจริง โดยมีไต้ก๋งเรือร่วมประสบเหตุ เป็นข้อเท็จจริงตามคำให้การ ก็ต้องมีการดำเนินคดีตามกฎหมายไทย

สำหรับเรือ โชคบุญมี 5 ทางการตำรวจน้ำสตูลเชื่อว่าคงต้องใช้เวลาในการส่งมอบเรือก่อนกลับฝั่งไทย เนื่องจากทางการมาเลเซียต้องมีการตรวจสอบว่าเรือลำดังกล่าวตรงกับเรือในมาเลเซียที่หายไปหรือไม่ และผู้ต้องสงสัยที่ควบคุมตัวได้ 2 คน ได้กระทำความผิดอะไรในประเทศมาเลเซียบ้าง ซึ่งสิ่งที่ไทยจะทำได้คือร่วมสอบปากคำผู้ต้องสงสัยว่าเป็นสัญชาติไทยจริงหรือไม่ เพื่อขอส่งมอบตัวกลับมาดำเนินคดีในฝั่งไทยต่อไป