xs
xsm
sm
md
lg

แชร์ว่อนเน็ตอีกแล้ว! คนขับรถตู้ใช้มีดขู่คนขับรถกระบะกลางถนนที่ภูเก็ต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - อีกแล้ว! แชร์ว่อน คลิปคนขับรถตู้ที่ภูเก็ตใช้มีดขู่คนขับรถกระบะที่อยู่ด้านข้าง เหตุเกิดในพื้นที่ สภ.ถลาง จ.ภูเก็ต ด้านผู้กำกับการระบุจะเรียกมาสอบสวน หากผิดจริงก็แจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากกรณี เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ของวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีเจ้าของเฟซบุ๊ก ชื่อ Suwan Rat ได้โพสต์คลิปวิดีโอเกี่ยวกับพฤติกรรมของคนขับรถตู้คันหนึ่ง เหตุเกิดฝั่งขานอกเมืองถนนเทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ก่อนถึงสามแยกโลตัส สาขาถลาง ในข้อความระบุว่า “ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้ ชักมีดขู่เลย บ่ายสองวันนี้” ซึ่งเจ้าของเฟซบุ๊กได้มีการแท็กไปยังเฟซบุ๊กของ “ขับรถแบบนี้ต้องประจาน” ซึ่งมีการแชร์ไปจำนวนมาก ขณะที่การแสดงความคิด ส่วนใหญ่ไม่พอใจกับการกระทำของคนขับรถตู้ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ซึ่งในคลิปจะเห็นว่ารถตู้ได้ขับตามหลังรถกระบะมาและพยายามแซงรถกระบะแต่ไม่สามารถแซงได้ หลังจากนั้นรถตู้พยายามแซงรถกระบะอีกครั้ง และแซงได้ จากนั้นเปิดกระจกลงมาชักมีดขู่รถกระบะคันดังกล่าว

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง พ.ต.อ.ชานุชาญ ชลสุวัฒน์ ผกก.สภ.ถลาง เปิดเผยว่า ตนได้ทราบเรื่องแล้ว แต่ยังไม่ได้ดูคลิปวิดีโอที่เกิดเหตุ เห็นแต่เพียงภาพนิ่ง โดยภาพนิ่งได้เห็นป้ายทะเบียนรถที่ชัดเจน ประกอบกับบริเวณหลังรถตู้มีการเขียนชื่อบริษัทไว้ชัดเจนเช่นกัน ซึ่งหลังจากนี้ก็จะให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนหาข้อมูลและเรียกคนขับรถตู้คันดังกล่าวมาสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น หากคนขับรถตู้ใช้มีดขู่ตามในคลิปวิดีโอก็จะแจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขณะที่ นายจตุรงค์ แก้วกสิ ผู้ช่วย ผอ.สำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ตนเพิ่งได้ทราบเรื่องเมื่อคืนที่ผ่านมา และได้ดูคลิปแล้วเห็นคนขับรถตู้เปิดกระจกรถลงแล้วเหมือนชักมีดขนาดเล็กมาขู่รถกระบะที่อยู่ด้านข้าง ซึ่งในคลิปได้เห็นป้ายทะเบียนรถและชื่อบริษัท หลังจากนี้ตนจะเรียกเจ้าของบริษัทดังกล่าวมาตรวจสอบก่อนว่ารถตู้คันที่ก่อเหตุวิ่งให้กับบริษัทดังกล่าวนั้นจริงหรือไม่ หากวิ่งอยู่จริงก็จะเรียกคนขับรถตู้ดังกล่าวมาสอบสวนข้อเท็จจริง ถ้าพบกระทำความผิดจริงก็จะมีการแจ้งข้อหาดำเนินคดีและเปรียบเทียบปรับในครั้งแรก หากมีการกระทำผิดอีกเป็นครั้งที่ 2 ก็จะสั่งพักใบอนุญาตการขับรถทันที ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวจะทำให้เสียภาพลักษณ์ของจังหวัดภูเก็ตต่อไป

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น