ยะลา - ศาลจังหวัดเบตงจัดโครงการ “ส่งเสริมความรู้ด้านกฎหมาย สำหรับเยาวชนในวัยศึกษา” เนื่องในโอกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมายุครบ 88 พรรษา เพื่อเผยแพร่กฎหมายที่ควรรู้แก่เด็ก-เยาวชนในยุคปัจจุบัน
วันนี้ (2 ธ.ค.) ที่ห้องประชุมโรงเรียนเบตง วีระราษฏร์ประสาน อ.เบตง จ.ยะลา นายวิสูตร มานะพิทักษ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดเบตง เป็นประธานเปิดโครงการ “ส่งเสริมความรู้กฎหมายสำหรับเยาวชนในวัยศึกษา” โดยมีนายศิริชัย วจีสัจจะ ผู้พิพากษาศาลจังหวัดเบตง นพ.ไพบูลย์ ศิวาวุธ ประธานศูนย์พึ่งได้โรงพยาบาลเบตง นายบรรณการ โลจนาภิวัฒน์ ผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดยะลา พร้อมด้วยเยาวชนในวัยศึกษากว่า 300 คนเข้าร่วม
นายวิสูตร มานะพิทักษ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดเบตง กล่าวว่า โครงการดังกล่าวจัดขึ้นจากสภาพสังคมในปัจจุบันที่กระแสความเจริญด้านเทคโนโลยีมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงแนวคิดเยาวชนในสังคม โดยเฉพาะแนวคิดด้านวัตถุนิยมที่หลั่งไหลเข้ามาผ่านสื่อเทคโนโลยีต่างๆ อันมีผลให้เยาวชนมีเจตคติและค่านิยมที่เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ซึ่งสะท้อนภาพได้อย่างชัดเจนจากภาพข่าวโทรทัศน์ อินเทอร์เน็ต หนังสือพิมพ์ เช่น ยาเสพติด ลักขโมย ทำร้ายร่างกาย และคดีอื่นๆ ทำให้มองเห็นถึงการขาดมารยาท จิตสำนึกที่ดี ใช้อารมณ์ตัดสิน ความดีความชอบ ดำเนินชีวิตบนบรรทัดฐานของความต้องการของอารมณ์เป็นหลัก หรืออาจพลั้งเผลอโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ขาดการเรียนรู้ ทั้งหลักการ ทฤษฎี และแนวปฏิบัติที่ดี
ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดเบตงกล่าวอีกว่า ปัจจุบันพบว่าเยาวชนได้กระทำผิดต่อกฎหมายบ้านเมืองจำนวนมากขึ้น จากข้อมูลของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดยะลา (เบตง) พบว่า มีเยาวชนได้ประพฤติตนผิดกฎหมายมากขึ้นปีละ 100 กว่าคดี ซึ่งเป็นสาเหตุให้ทั้งเยาวชนและผู้ปกครองต้องเสียเวลาในการประกอบอาชีพ และต้องเสียเงินค่าความเสียหายที่เยาวชนได้กระทำลงไป แทนที่เยาวชนจะช่วยเหลือครอบครัวประกอบอาชีพ หรือประหยัดในยุคที่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดยะลา (เบตง) จึงได้มีนโยบายส่งเสริมให้ความรู้ ด้านกฎหมายให้แก่เยาวชนในวัยศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นขึ้น เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชทรงเจริญพระชนมพรรษาครบรอบ 88 พรรษาในวันที่ 5 ธันวาคม 2558
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนในวัยศึกษาได้ทราบถึงกฎหมายและโทษของการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับเยาวชนโดยตรง สร้างจิตสำนึกที่ดีให้แก่เยาวชน ละเว้นการประพฤติผิดกฎหมาย ซึ่งจะทำให้เสียการเรียนและอนาคตที่ดีได้