xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านหัวไทรเผย “เขื่อนกันทราย” สาเหตุหลักทำคลื่นซัดบ้านเรือนเสียหาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นครศรีธรรมราช - ชาวบ้านหัวไทร นครศรีธรรมราช ชี้ “เขื่อนกันทราย” ปากคลองระบายน้ำชะอวด-แพรกเมือง ความยาวหลายร้อยเมตรเป็นต้นเหตุคลื่นยักษ์ซัดถล่มบ้านเรือนได้รับความเสียหาย โอดหาดทราย อาชีพ วิถีชีวิตเปลี่ยนแปลงหน้ามือเป็นหลังมือ


วันนี้ (1 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีคลื่นที่ขึ้นสูงจนซัดบ้านเรือนที่ตั้งอยู่ริมทะเลอ่าวไทยในหมู่ที่ 3 ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราชเสียหายว่า ชาวบ้านในพื้นที่ให้ข้อมูลว่าสาเหตุดังกล่าวมาจากการสร้างเขื่อนกันทรายบริเวณปากคลองระบายน้ำชะอวด-แพรกเมือง ที่รุกล้ำลงไปในทะเลหลายร้อยเมตร ทำให้เม็ดทรายที่เคยไหลเวียนจากทิศใต้ไปถมหาดทรายที่อยู่ทางทิศเหนือมาชั่วนาตาปีได้ถูกเขื่อนยักษ์กักทรายเอาไว้ หาดทรายบริเวณหมู่ 3 ที่อยู่ทางทิศเหนือของเขื่อนจึงถูกกัดเซาะจนหมด และเมื่อฤดูมรสุมประจำปีมาถึงก็ทำให้คลื่นซัดบ้านเรือนจนเสียหายตามที่เป็นข่าวเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา (อ่านข่าว : อ่วม! คลื่นซัดถนนสายปากพนัง-หัวไทรพังยับ บ้านเรือนจมหายลงทะเลยังไร้เยียวยา)

ชาวบ้านรายเดิมให้ข้อมูลต่อว่า เขื่อนยักษ์ดังกล่าวสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2547 หลังจากนั้นหาดทรายที่เคยกว้างขวางหลายร้อยเมตรกลับถูกกัดเซาะจนหมดไปทั้งหาด จากนั้นกรมเจ้าท่าก็ได้สร้างเขื่อนกันคลื่นลงในทะเลเพื่อป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง ถือเป็นการแก้ปัญหาแบบเฉพาะหน้าไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุ หากจะแก้ที่ต้นเหตุก็ต้องเอาเขื่อนกันทรายปากคลองระบายน้ำชะอวด-แพรกเมือง ออกไป แทนที่จะเอาหินจากภูเขามาถมทะเลเพื่อทำเขื่อนซึ่งถือเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติไม่สิ้นสุด

“หาดทรายขาวเป็นที่สันทนาการ ช่วงเย็นจะมีเด็กเล่นฟุตบอล มีคนทอดแหหาปูปลา มีเรือประมงชายฝั่งได้พอหาเลี้ยงครอบครัว แต่เมื่อเขื่อนกันทรายบริเวณอ่าวปากคลองระบายน้ำชะอวด-แพรกเมืองถูกสร้างขึ้นมามันได้ทำลายหาดทรายไปหมดสิ้น อาชีพประมงชายฝั่งก็หายไปหมด หลายครอบครัวจึงอพยพออกจากพื้นที่ไปหางานทำยังถิ่นอื่น ยิ่งช่วงฤดูมรสุมคนที่มีบ้านอยู่ติดชายทะเลก็ต้องนอนอย่างหวาดผวาเพราะไม่รู้ชะตากรรมว่าคลื่นจะซัดถึงบ้านเรือนของตัวเองเมื่อไหร่” ชาวบ้านคนเดิมกล่าว




กำลังโหลดความคิดเห็น