ตรัง - “ผู้ว่าฯ” ร่วมกับ “รอง ผบช.ภ.9” แถลงข่าวทลายแก๊งค้ายาบ้าครั้งใหญ่ ได้ของกลาง 1 แสนเม็ด พร้อมอาวุธปืนสงครามที่เชื่อมโยงกับพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก่อนจะส่งให้เร่งตรวจสอบเคยใช้ก่อคดีหรือไม่
วันนี้ (20 พ.ย.) ที่ สภ.เมืองตรัง นายเดชรัฐ สิมศิริ ผวจ.ตรัง พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย รอง ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช ผบก.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.ปัญจพล ชำนาญหมอ ผกก.สภ.เมืองตรัง และ พ.อ.ธวัชชัย รักอาชีพ รอง ผอ.รมน.ตรัง ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหายาเสพติด และอาวุธสงคราม
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.เอกพงษ์ ทั่งจันทร์แดง สว.สส.สภ.เมืองตรัง ร.ต.อ.บรรจบ หนูเหนี่ยว ร.ต.ท.เอกชัย ยอดรักษ์ รอง สว.สส.สภ.เมืองตรัง พร้อมชุดปราบปรามยาเสพติด และชุดสืบ สภ.เมืองตรัง ได้ร่วมกันกับกุมนายกฤษดา หรือเบียร์ ควนวิไล อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 ม.13 ต.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง และ น.ส.ธนพร หรือเมย์ เต่าทอง อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61/2 ม.1 ต.แก่งหางแมว อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 50 มัด มัดละ 10 ถุง ถุงละ 200 เม็ด รวมทั้งสิ้น 100,000 เม็ด
หลังจากชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการลำเลียงยาบ้าจากกรุงเทพฯ เข้าสู่ จ.ตรังมาทางรถไฟ จึงได้ทำการวางแผนเพื่อจับกุม จนกระทั่งเวลาประมาณ 08.20 น. รถไฟจากกรุงเทพฯ มาถึง จ.ตรัง เมื่อถึงชานชาลาได้มีวัยรุ่นชายลากกระเป๋าแบบเดินทางลงมาจากรถไฟ และวัยรุ่นหญิงมีท่าทางพิรุธ และตรงกับที่สายลับรายงาน จึงได้ทำการแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ และทำการตรวจค้น พบยาบ้าดังกล่าวอยู่ในกระเป๋าเดินทาง จึงได้คุมตัวมายัง สภ.เมืองตรัง โดยได้รับสารภาพว่า ยาบ้าดังกล่าวเป็นของตนเองจริง ซึ่งได้ว่าจ้างให้รับยาบ้าจำนวนดังกล่าวมาส่งในพื้นที่ จ.ตรัง โดยทำเป็นครั้งแรก ได้ค่าจ้าง 50,000 บาท จึงแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต เสพสารเสพติดให้โทษ (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช ผบก.ภ.จว.ตรัง กล่าวยืนยันว่า ตรังเป็นแค่ที่ทางผ่าน ไม่ได้เป็นเป้าหมายสุดท้ายของสินค้า เตรียมเร่งขยายผลกวาดล้างสิ่งผิดกฎหมายทุกรูปแบบ ส่วนอาวุธปืนที่จับได้ทราบว่ามาจาก อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ก็จะมีการตรวจสอบประวัติอีกครั้งว่าเคยใช้ก่อเหตุในพื้นที่มาแล้วหรือไม่ และเหตุใดที่ต้องนำมาในพื้นที่ จ.ตรัง