นครศรีธรรมราช - รวบหนุ่มใหญ่เมืองพระ ก่อเหตุบุกยิงชาวบ้านหมายชิงเมียจนเสียชีวิต ก่อนตำรวจบุกค้นที่หลบซ่อนพบอาวุธสงครามอื้อ จ่อส่งศาลทหารดำเนินคดี
วันนี้ (16 พ.ย.) พ.ต.อ.สุตรีทา อ่อนสด ผกก.สภ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช รายงานเหตุอุกฉกรรจ์ และการจับกุมผู้ต้องหาภายหลังเกิดเหตุต่อ พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช กรณีเหตุฆาตกรรมตุเกิดในท้องที่ สภ.พิปูน โดยมีพนักงานสอบสวน คือ ร.ต.ท.ชยุต ศรีสุภา พนักงานสอบสวน สภ.พิปูน เข้าชันสูตรตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งในเบื้องต้นนั้นเป็นการก่อเหตุยิงผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสที่บ้านอยู่ในระหว่างการก่อสร้างภายในท้องที่ ม.4 ต.พิปูน อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช
เบื้องต้น พบผู้บาดเจ็บ คือ นายสมโชค วงสวัสดิ์ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 137 ม.4 ต.พิปูน อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดเข้าศีรษะ 1 นัด ญาติได้นำส่ง รพ.พิปูนก่อนแล้ว แต่อาการสาหัสมาก ทาง รพ.พิปูน จึงส่งต่อไปรักษาตัวที่ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช แต่เสียชีวิตลงในเวลาต่อมา
ส่วนในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลข้อมูลจากประจักษ์พยานจนพบว่า ผู้ก่อเหตุ คือ นายพงศ์ศักดิ์ พรหมแก้ว อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 312 ม.4 ต.พิปูน อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่กระท่อมบนภูเขา ม.4 ต.พิปูน เจ้าหน้าที่จึงไปคุมตัวไว้ได้ พร้อมตรวจค้นที่กระท่อมดังกล่าวพบอาวุธสงคราม ปืนคาร์บิน 1 กระบอก กระสุน 48 นัด ปืนขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก กระสุน 20 นัด ปืนอัดลม 1 กระบอก กระสุน 20 นัด และกระสุนปืนขนาด 9 มม.อีก 16 นัด
ต่อมา ได้นำมาตรวจเขม่าดินปืน เบื้องต้นพบว่า มีเขม่าดินปืนติดอยู่ในมือ ขณะที่นายพงศ์ศักดิ์ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นคนยิงนายสมโชค สืบเนื่องมาจากโกรธแค้นกันมาก่อน จึงบุกเข้าไปใช้อาวุธปืนยิงใส่ นายสมโชค ถึงที่บ้าน หลังจากนั้นไม่นานตำรวจก็เข้าทำการจับกุมตัวได้ดังกล่าว เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อกล่าวหาฆ่าคนตายโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน จึงควบคุมส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะที่ชุดสืบสวนระบุว่า ความจริงแล้วสาเหตุมาจากเรื่องชู้สาว ซึ่งมือปืนนั้นได้ไปชอบพอกับภรรยาของผู้ตาย จึงได้ก่อเหตุสยองดังกล่าวขึ้นเพื่อต้องการที่จะได้ภรรยาของผู้ตายมาครอบครอง ส่วนอาวุธปืนน่าจะเป็นอาวุธสงคราม ปืนคาร์บินนำมาก่อเหตุในครั้งนี้ ซึ่งนอกจากนายพงศ์ศักดิ์ จะมีข้อหาคดีฆ่าแล้ว นายพงศ์ศักดิ์ ยังต้องคดีอาวุธปืนสงครามและเครื่องกระสุนปืนอีกหลายคดี โดยเฉพาะคดีอาวุธสงครามนั้นจำต้องคุมตัวส่งศาลทหารเป็นศาลที่จะต้องพิจารณาคดีตามคำสั่ง คสช.
